วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

121

 

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม

–  ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าโรงกลั่นจะลดกำลังการผลิตลง 22,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ 0.4% แล้วก็ตาม โดยปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 877,000 บาร์เรล

– ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนที่เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 2 โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการ แสดงค่า GDP ของจีนขยายตัว 7.9% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสาตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและการแพร่ระบาดของโควิด-19

– นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันดิบ จากการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการปรับเพิ่มกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มโอเปกพลัสจะจัดประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ตึงตัวหลังโรงกลั่นในเวียดนามจะปิดซ่อมบำรุงในเดือน ส.ค. อีกทั้งโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้ประกาศเหตุสุดวิสัย เนื่องจากความไม่สงบทางการเมือง

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ยังจำกัดในภูมิภาค เนื่องจากการจำกัดการเดินทางเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางการนำเข้าน้ำมันดีเซลของฮ่องกงที่เพิ่มขึ้น

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์