10 แบรนด์ SMEs ไทย เตรียมเจาะตลาดจีนสิงหาคมนี้

1154

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP เฟ้น 10 แบรนด์ SMEs ไทยที่เข้าร่วม “กิจกรรมบ่มเพาะผู้ประกอบการแบรนด์ไทยสู่ตลาดจีน” (Over the Great Wall : Now Normal Era) เพื่อเข้าสู่ตลาดจีนผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เน้นการพัฒนาสินค้า การทำการตลาดระหว่างประเทศ และสร้างความเข้มแข็งทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการกิจกรรมบ่มเพาะผู้ประกอบการแบรนด์ไทยสู่ตลาดจีน ดำเนินงานโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า ร่วมกับศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน Thailand Smart Trade Center หรือ TSTC เป็นโครงการตามแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่สากล โดยจีนถือเป็นประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการส่งออกสินค้าไทย ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1,400 ล้านคน

รวมทั้งปัจจัยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนมีรายได้สูงและเกิดเศรษฐีใหม่จำนวนมาก ส่งผลให้มีกำลังซื้อสูงมากขึ้นอย่างมหาศาล จึงเป็นตลาดที่นักธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ แม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) แต่ก็สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกจากรอบสุดท้ายซึ่งเป็นการนำเสนอแผนธุรกิจและสินค้า จำนวน 10 บริษัท โดยทางกรมฯ จะดำเนินการพาเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำเพื่อจำหน่ายสินค้าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ได้แก่ แบรนด์พันดารา บริษัท ตะวันพันดารา จำกัด, แบรนด์ เอ เอ็ม ที สกินแคร์ บริษัท อมต อินโนเวชั่น จำกัด

แบรนด์คริสปี้ไรซ์ บริษัท ไรซ์ ยูนิคอร์น จำกัด, แบรนด์เนเจอร์ไลฟ์เฮิร์บ, แบรนด์หมีคู่ดาว บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด, แบรนด์นัสรีน บริษัท ลียาฮาลาลฟู้ด จำกัด ,แบรนด์โคโคบุรีและไทยโคโค บริษัท ไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน), แบรนด์ฟินาเล่ และคูลคิดส์ บริษัท นาโนเมด จำกัด, แบรนด์ส่งเฮง บริษัท ลาโต้ ฟู้ดแอนด์ดริ้งค์ จำกัด และ แบรนด์พอส รังนก บริษัท พอสวัน จำกัด

“สำหรับกิจกรรมนี้ นอกจากจะเพิ่มขีดความสามารถแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับ SMEs ไทยได้เข้าถึงตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการและต่อยอดผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ได้รับการส่งเสริมในตลาดจีนได้อย่างยั่งยืน” นายสมเด็จ กล่าว