ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป โดย บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ จากการอัพเดตสถานการณ์บริษัทในประเด็นการคลายล็อกดาวน์ มีประเด็นสำคัญ ณ 27 ส.ค.64 1.บริษัทกลับมาเปิดดำเนินการ 61 โรงภาพยนตร์ใน 33 จังหวัด แต่คาดจะเปิดได้ทั่วประเทศใน 1ต.ค.64 อิงกรอบเวลารัฐบาล บริษัทมีความพร้อมในการกลับมาเปิดดำเนินการ โดยมีภาพยนตร์บลอกบัสเตอร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะ Fast&Furious 9, Black Window, Spider Man และ No Time to Die (James Bond 007) รอขาย 2. บริษัทคาดจะได้เงินจากการขาย SF ใน Q3/64 จำนวน 7.7 พันลบ. (หลังภาษี 7.5 พันลบ.) โดยจะใช้เงิน 30% สำหรับชำระหนี้, 28% เงินทุนหมุนเวีนน และ 41% ลงทุน
ทั้งนี้คาดการดำเนินงานหลัก Q3/64 จะขาดทุน จากการปิดโรงภาพยนตร์ชั่วคราวทั่วประเทศ แต่ได้กำไรพิเศษ 2.8 พันลบ. ชดเชย ทางฝ่ายรวมรายการพิเศษนี้เข้าไปในประมาณการ คาดการดำเนินงานหลักจะพลิกเป็นกำไรใน Q4/64 จากการเปิดดำเนินการอีกครั้ง รายชื่อภาพยนตร์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ผลประกอบการพลิกใน Q4/64 ภาพรวมคาด MAJOR จะขาดทุน 86 ลบ. ในปี 64 และปี 65 พลิกเป็นกำไร 1.1 พันลบ. วิเคราะห์ปันผลจากการขาย SF เชื่อว่า MAJOR สามารถใช้เงินสำรองทั้งหมด 2.1 พันลบ. ที่กล่าวไว้ข้างต้นในการจ่ายปันผล คาดเงินสำรองอย่างน้อย 50% (1 พันลบ.) จะถูกใช้ในการจ่ายปันผล เทียบเท่าผลตอบแทนปันผล 5% แต่ถ้าจ่ายทั้ง 2.1 ลบ. จะเทียบเท่า 11%
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายเป็น 28 บาท จาก 25.5 บาท จากการปรับฐานเป็นสิ้นปี 65 เชื่อว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังการฟื้นตัวใน Q4/64 ซึ่งโรงภาพยนตร์กลับมาดำเนินงาน ทางฝ่ายเชื่อว่าหุ้นยังมีช่องในการปรับตัวขึ้นอีก โดยมีปัจจัยกระตุ้นจากการฟื้นตัวของกำไร และโมเมนตัมกำไรแกร่งต่อเนื่องในปีหน้า
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
