มิติหุ้น – โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) ปี 9 เปิดตัวแคมเปญ “รวมพลังสู้โควิด-19” นำโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ บริษัท ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงวิกฤตโควิด-19 ระดมวิทยากรให้ความรู้ในการดำรงชีวิต การดูแลสุขภาพ และการใช้สมุนไพร บนเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ของโครงการตามรอยพ่อฯ พร้อมเดินหน้าจัดคาราวานแจกตะกร้าปันสุข ชุดต้มและน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า แบ่งปันผลผลิตสมุนไพรของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ และชุดดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยสีเขียวที่พักรักษาตัวที่บ้าน หรือกล่องกรีนบ็อกซ์ แก่ประชาชนทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถดูแลพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
อาจารย์ยักษ์แนะใช้ ‘5 ต.’ สู้โควิด-19
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “ในสถานการณ์วิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ หลักการพึ่งตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสมุนไพรพื้นบ้าน ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย ฟ้าทะลายโจร พวกเผ็ดร้อนหอมระเหยทั้งหลาย (เครื่องต้มยำ) นำมาต้มสูดดมและดื่ม คือกินอาหารเป็นยาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โรคระบาดโควิด–19 สมัยโบราณเรียกว่าโรคห่าตำปอด หรือ โรคหวัดที่มันรุนแรงถึงขั้นลงไปถึงปอดนั่นเอง วิธีการรักษาก็คือทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ร่างกายก็จะมีระบบภูมิคุ้มกัน มีความแข็งแรง ดังนั้นอาหารเป็นยาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด นอกจากนั้น การจะรับมือกับสถานการณ์ที่วิกฤตที่สุด ต้องใช้ ‘ยุทธการ 5 ต.’
‘ต.ที่ 1 ตั้งสติ’ นี่คือเรื่องใหญ่สุด อย่าตกใจ ต้องเตือนกันแล้วก็ตั้งสติให้ได้ ถ้ามีสติภูมิคุ้มกันจะมาเอง ‘ต.ที่ 2 รวมตัวกัน’ ตั้งศูนย์ต่อสู้โควิดด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของบ้านเรา ด้วยตำรับตำราที่เรามีอยู่ ‘ต.ที่ 3 ต้มยา’ พึ่งตนเองให้ได้ สมุนไพรรอบบ้าน รวมกันมาเอามาต้ม สูดดมให้หายใจโล่ง ทั้งดมทั้งดื่มทั้งกินเข้าไป ‘ต.ที่ 4 ตากแดด’ แดดสร้างวิตามินดี ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันหรือที่เรียกว่า Natural Killer ร่างกายจะมีนักฆ่าประจำตัวตามธรรมชาติ ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น ‘ต.ที่ 5 เต้นประกอบจอบ’ คือ เต้นไปก็ถือจอบขุดดินปลูกสมุนไพรชนิดต่างๆ ไว้ในบ้านของเราไปด้วย ถ้าฉุกเฉินจำเป็นต้องกักตัวอยู่ที่บ้านจะได้มีสมุนไพรอยู่ข้างบ้านเลย ถ้าไม่มีที่ดินข้างบ้านก็ไปหากระถางมาปลูกสมุนไพรให้ได้สัก 5-6 อย่าง ก็จะสามารถพึ่งตนเองได้ในระยะที่ยังไม่มีหมอยังไม่มียา”
‘สอน เสริม สู้ โควิด-19 ด้วยศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น’
ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของแคมเปญรวมพลังสู้โควิด-19 ว่า “นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โครงการตามรอยพ่อฯ ซึ่งดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 9 ในปีนี้ ได้เดินหน้าให้ความรู้ประชาชนในการใช้ชีวิตตามแนวทาง ศาสตร์พระราชา เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเอง อันเป็นหัวใจสำคัญของการรับมือกับทุกวิกฤตรวมถึงวิกฤตโควิด–19 อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนเพิ่มมากขึ้น โครงการตามรอยพ่อฯ จึงร่วมกับเครือข่ายฯ และบริษัท ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด จัดแคมเปญ ‘รวมพลังสู้โควิด-19’ ด้วยแนวคิด ‘สอน เสริม สู้ โควิด-19 ด้วยศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น’ โดย ‘สอน’ คือ การแบ่งปันความรู้ศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อการพึ่งพาตนเอง ทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว การกินอาหารเป็นยา ความรู้เรื่องการใช้และแปรรูปสมุนไพร ‘เสริม’ คือ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทั้งทางกายและใจ ด้วยผลผลิตเพื่อป้องกันและดูแลรักษาเบื้องต้นจากเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ และ ‘สู้’ คือ สู้กับโควิด-19 ด้วยพลังสามัคคี
ทั้งนี้ แคมเปญ ‘รวมพลังสู้โควิด-19’ ของโครงการตามรอยพ่อฯ ปี 9 จะดำเนินงานระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2564 เพื่อถ่ายทอดความรู้ในการดูแลสุขภาพและพึ่งพาตนเอง ตามแนวทางศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงแบ่งปันความช่วยเหลือให้กับประชาชน โดยร่วมมือกับ ศูนย์ช่วยโควิด-19 ของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ รวม 19 แห่งทั่วประเทศจัดคาราวาน ‘รวมพลังสู้โควิด-19’ แจกตะกร้าปันสุข ชุดต้มและน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า และกล่องกรีนบ็อกซ์ (Home Isolation Green Box) ซึ่งเป็นชุดดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยสีเขียวที่พักรักษาตัวที่บ้านจำนวน 1,000 กล่อง ตลอดจนร่วมกับอาจารย์ยักษ์และวิทยากรของมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติให้ความรู้ประชาชนในเรื่องของการดำเนินชีวิตตามแนวทางศาสตร์พระราชา และการทำผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันและดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น บนเฟซบุ๊กของโครงการฯ (www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking)”
ด้าน นายไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวถึงรายละเอียดของคาราวาน “รวมพลัง สู้โควิด-19” ว่า “มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ 19 แห่งทั่วประเทศ จะร่วมกันจัดคาราวาน ‘รวมพลังสู้โควิด-19’ โดยจะแจกชุดอาหารเป็นยา ได้แก่ ตะกร้าปันสุข ชุดต้มและน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า ซึ่งเป็นผลผลิตของเครือข่ายฯ แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ร้องขอรวม 252 พื้นที่ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนนี้
ทั้งนี้ ‘ตะกร้าปันสุข’ จะเป็นตะกร้าที่ปลูกพืชผักสวนครัวและสมุนไพร ตะกร้าละประมาณ 5-6 ต้น เช่น กะเพรา พริก มะเขือ โหระพา ผักเป็ดญี่ปุ่น ตะไคร้ ฟ้าทะลายโจร กระชาย เป็นต้น ซึ่งผู้รับสามารถนำไปดูแลรดน้ำพรวนดินต่อ หรือนำไปลงดินแยกปลูกได้เลย ก็จะได้สมุนไพรไทยปลูกไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้ทันที ส่วนน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า ใช้สูดดมดื่มกินเพื่อเพิ่มเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ประกอบด้วย ลูกใต้ใบ 1 กำมือ เหง้ากระชาย 1 กำ ขิงแก่ 2 หัว ข่าแก่ 2-3 หัว หอมแดง 1 กำ ตะไคร้ 1 กำ มะนาว 1-2 ลูก มะขามเปียก 1 กำ เกลือเล็กน้อย ต้มกับน้ำสะอาด 5 ลิตร ซึ่งเราจะแจกทั้งแบบสมุนไพรสดให้ไปต้มแจกจ่ายกันเองในชุมชนและแบบต้มเป็นน้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม”
ด้าน นายพิเชษฐ โตนิติวงศ์ ผู้จัดการไปทั่ว บริษัท ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด กล่าวถึงสรรพคุณของน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า ว่า “สูตรน้ำ 7 นางฟ้า ค่อนข้างสมบูรณ์ในการแก้หวัด และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ข้อมูลจากแพทย์แผนไทยเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ระบุว่าลูกใต้ใบ เป็นยาแก้ไข้มาแต่โบราณ ช่วยรักษาไข้ป่า ไข้มาลาเรีย ส่วนขิง ข่า ตะไคร้ มะขามเปียก กระชาย ช่วยขับเสมหะแก้ไอ ขับถ่ายดี เกลือช่วยตัดพิษของกระชาย อย่างไรก็ดี ยาสมุนไพร ควรกินเป็นตำรับยา ไม่ควรกินเชิงเดี่ยว น้ำ 7 นางฟ้า หากดมและดื่มอย่างถูกวิธีร่วมกับยาฟ้าทะลายโจร ก็จะช่วยทำงานกันเป็นทีม เพื่อปรับธาตุในร่างกายให้สมดุล และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย น้ำ 7 นางฟ้าจึงเริ่มแพร่หลาย และเป็นอีกทางเลือกสำคัญในการพยุงผู้ป่วยสีเขียว หรือผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นได้ดี โดยก่อนหน้านี้ เราได้เริ่มต้มน้ำ 7 นางฟ้า นำร่องแจก 500 ถ้วย 5 วันต่อเนื่อง แจกคนไร้บ้านบริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีว่าช่วยแก้หวัดลดไข้ได้ดี หลังจากนั้นได้ส่งสมุนไพรให้ชุมชนเพื่อนำไปต้มดื่มเสริมภูมิคุ้มกัน รวมถึงส่งน้ำ 7 นางฟ้าถึงบ้านคนป่วยที่ลงทะเบียนผ่านไลน์ธรรมธุรกิจอีกด้วย”
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในวิกฤตแบบนี้จำเป็นที่ต้องเตรียมพร้อม ไม่ควรจะประมาท ต้องสามัคคีช่วยเหลือกัน การช่วยเหลือที่ดีที่สุด คือ ทำตัวเองให้แข็งแรง ต้องหาทางพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุด ผมขอชักชวนให้ทุกคนลุกขึ้น จุดไฟในใจตัวเอง รวมตัวจุดไฟในชุมชนของเราขึ้นมา พึ่งตนเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติทำได้แล้ว เราพึ่งตนเองในหลายชุมชน ปิดล้อมจนไวรัสโควิด–19 หายไปจากทั้งหมู่บ้านได้ ยืนยันว่าศาสตร์พระราชาแก้ปัญหาได้ทุกวิกฤต แล้วเราจะรอดไปด้วยกันทั้งประเทศ”
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
https://lin.ee/cXAf0Dp