มิติหุ้น – ‘บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์’ หรือ CV รับข่าวดีคว้างานโรงไฟฟ้าชุมชน 3 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 19.8 เมกะวัตต์หลังสำนักงาน กกพ. ประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย ชูศักยภาพและความพร้อมในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร คาดลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก พร้อมกำหนด COD ในปี 2567
นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และผู้ให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตามวิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำ ที่ส่งมอบคุณค่าจากพลังงานหมุนเวียน สู่สังคมโลก เพื่อความยั่งยืน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ผ่านการพิจารณาเกณฑ์คัดเลือกเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กันยายน 2564 โดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 19.8 เมกะวัตต์
ประกอบด้วย 1.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนาแก้ว จ.ลำปาง กำลังการผลิต 6.6 เมกะวัตต์ 2.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเนินปอ จ.พิจิตร กำลังการผลิต 6.6 เมกะวัตต์ และ 3.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนากอก จ.หนองบัวลำภู กำลังการผลิต 6.6 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก หรือภายในวันที่ 21 มกราคม 2565 และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 21 มกราคม 2568
“จากประสบการณ์การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลในรอบพื้นที่ภาคใต้ได้ก่อนหน้านี้ เราจึงกำหนดยุทธศาสตร์ในการกำหนดราคายื่นประมูลที่มั่นใจว่าสามารถแข่งขันได้ และยังคงได้รับอัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมในพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงบริษัทมีศักยภาพและความพร้อมในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อีกทั้งเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร ถือว่ามีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยี และแหล่งเงินทุน รวมถึงด้านเชื้อเพลิง ที่สำคัญยังมีเครือข่ายความร่วมมือจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ โดย CV ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล และคว้างานโรงไฟฟ้าได้ 3 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 19.8 เมกะวัตต์” นายเศรษฐศิริ กล่าว