VPO รับทรัพย์ปาล์มพุ่งรอบ10ปี กูรูฟันธงกำไรวิ่งทำนิวไฮ

905

 

มิติหุ้น-นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาผลปาล์มขยับขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี แตะ 9 บาทต่อกิโลกรัมจากก่อนหน้านี้ 8.40 บาทกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดโลกต้องการปาล์มมากขึ้น ล่าสุด “ยุโรป” นำเข้าปาล์มไปผลิตไบโอดีเซลมากขึ้น ส่วนผู้ปลูกปาล์มอย่างประเทศบราซิลก็ประสบภัยแล้งทำให้ได้ผลผลิตลดลง จึงสนับสนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในต่างประเทศขยับขึ้นเป็น42 บาทต่อกิโลกรัม และในประเทศขยับขึ้นเป็น 44 บาทต่อกิโลกรัม

รวมถึงที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยังได้พิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคประชาชน หลังราคาน้ำมันมีทิศทางที่ผันผวน จึงปรับสูตรน้ำมันไปใช้สูตรเดิม 3 เกรด คือ B7 B10 และ B20 และยกเลิก B6 เพื่อสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล ในวันที่ 1 พ.ย.64 นี้ โดยปัจจัยเชิงบวกนี้จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันปาล์ม อย่าง VPO-CPI-LST แนะนำ “เก็งกำไร”

โดย VPO คาดธุรกิจครึ่งปีหลังคาดบริษัทยังมีรายได้จากการขายน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ในส่วนรายได้ ธุรกิจโรงไฟฟ้า ของบริษัทคาดยังคงรับรู้กำไรเต็มปีต่อเนื่อง จากโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง ขนาดกำลังผลิต 8.4 MW ประเมินกำไรทั้งปี64 นิวไฮ ให้เป้าเหมาะสม 3.00 บ.

ด้าน“บมจ.วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ หรือ VPO” โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3และ4/64 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง  เพราะได้รับอานิสงส์ราคาขายเฉลี่ยของน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์ม รวมถึงปริมาณการขายของน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น บวกกับเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน VPO มีโรงสกัดน้ำามันปาล์มดิบ 2 โรง กำลังการผลิตรวม 180 ตันผลปาล์มต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าบริษัทมีกำลังการผลิตรวมที่ใหญ่ที่สุดในจ.ชุมพร ที่เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันที่สำคัญของประเทศไทย

สำหรับแนวโน้ม “ราคาน้ำมันปาล์ม” ในตลาดโลกคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงและสูงกว่าผู้เชี่ยวชาญเคยคาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี 64 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงในอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม 2 อันดับแรกของโลก ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน จึงคาดว่าปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาดจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งการส่งออกน้ำมันปาล์มที่ค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าสต็อกน้ำมันปาล์มของมาเลเซียจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ VPO ยังมีการรับรู้รายได้จาก “ธุรกิจพลังงาน” โดยได้จ่ายไฟเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่ชุมพร ขนาดกำลังผลิต 8.4 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าทุ่งคา 2.8 MW และโรงไฟฟ้าที่ท่าแซะ 5.6 MW โดย ทั้งปี 64 มั่นใจผลงานจะเติบโตโดดเด่น ล่าสุดช่วง 6 เดือนแรก พลิกมีกำไรสุทธิในรอบหลายปีที่ 32.89 ล้านบาท และรายได้รวม 748.80 ล้านบาท

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp