มิติหุ้น – บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ร่วมกับคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Power Green Camp) ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก ภายใต้หัวข้อ “ECO Living & Learning – เปลี่ยนปรับสู่กรีนไลฟ์สไตล์ ตอบรับ New Normal” โดยคัดเลือกเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไม่จำกัดสาขาวิชา (เป็นครั้งแรก) จำนวน 40 คน จาก 40 โรงเรียน 31 จังหวัด จากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 217 คน มาร่วมเปิดประสบการณ์การเข้าค่ายแบบ New Normal เพื่อเสริมสร้างพลังแห่งการเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 21 พฤศจิกายน 2564 โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้แนวทางการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงกูรูด้านสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผสมผสานทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ นอกจากนี้ ทางค่ายฯ ยังมีอุปกรณ์ชุดทดลองทางวิทยาศาสตร์ จัดส่งให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติกันถึงบ้าน
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสาย – สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับบ้านปู เราเชื่อว่า “พลังความรู้ คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา” ดังนั้นแม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การจัดค่ายเพาเวอร์กรีนในรูปแบบปกติอย่างที่เราทำมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมานั้นทำได้ยากขึ้น แต่บ้านปู รวมทั้งคณะสิ่งแวดล้อมฯ ยังคงมีความตั้งใจที่จะสานต่อค่ายเพาเวอร์กรีน ต่อไปในปีนี้ด้วยรูปแบบออนไลน์ เพื่อเติมพลังความรู้ให้กับเยาวชนทั่วประเทศที่ไม่จำกัดเฉพาะสายวิทย์ฯ และมีความสนใจในประเด็นด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม พร้อมกับปลูกฝังแนวทางการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับหลักการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตามหลัก ESG ของบ้านปู และเพื่อให้การจัดกิจกรรมมีประสิทธิผลมากขึ้น เราจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบกิจกรรมที่เยาวชนจะได้รับทั้งความรู้ และประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้แบบผสมผสานทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยเราได้มีการจัดส่งอุปกรณ์ชุดทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการถึงบ้าน พร้อมกับมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำตลอดทุกกิจกรรมอย่างใกล้ชิด”
ผศ. ดร.กฤตณะ พฤกษากร อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานโครงการค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 16 กล่าวว่า “แม้ทุกประเทศทั่วโลกจะต้องปรับตัวสู่ยุค New Normal เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ รวมถึงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่ความปกติใหม่ แต่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในประเด็นต่าง ๆ ยังคงมีความสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งปัญหาภัยพิบัติ มลพิษทางสิ่งแวดล้อม ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และอีกมากมาย ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างผลกระทบจนกลายเป็นปัญหาสะสม และเพราะจุดเริ่มต้นของปัญหามาจากมนุษย์ ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมายังสะท้อนให้เห็นถึงการก่อเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งปัญหาขยะที่เพิ่มมากขึ้น เศษอาหารเหลือทิ้งที่มีจำนวนมหาศาล เราจึงพูดได้ว่าทุกปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัวสำหรับทุกคน ซึ่งการปลูกฝังให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญ มีความรู้ ความเข้าใจ และก้าวเข้ามามีส่วนในการร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนปรับพฤติกรรมให้เยาวชนเห็นความสำคัญของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น นี่คือที่มาของหัวข้อการเรียนรู้ของค่ายฯ ในปีนี้”
สำหรับกิจกรรมในค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 16 ในปีนี้ ได้เริ่มต้นกันตั้งแต่การปูพื้นฐานผ่านกิจกรรม Transformative Learning เพื่อฝึกฝนเยาวชนในเรื่องของ Soft Skills ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่จากทั่วประเทศในค่ายฯ เพื่อฝึกฝนเรื่องการทำงานร่วมกับผู้อื่น ก่อนเข้าสู่การเรียนรู้ในลำดับต่อไป สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ก็คือ การได้ลงมือทดลองปฏิบัติใน 3 ชุดการทดลองที่ได้มาตรฐานซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้จริงในครัวเรือนมูลค่ารวมคนละ 10,000 บาท ที่ทางค่ายฯ จัดส่งให้ถึงบ้านแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น การทดลองชุด “ดักต่อไม่รอแล้วนะ” เพื่อเรียนรู้เรื่องน้ำเสีย การบำบัดน้ำเสีย และการประดิษฐ์ถังดักไขมันเพื่อใช้ในครัวเรือน การทดลองชุด “Food Waste Transformation“ เพื่อเรียนรู้เรื่องการจัดการขยะและการเปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดย อ. ดร.นรินทร์ บุญตานนท์ มหาวิทยาลัยมหิดล การทดลองชุด “มีอยู่จริงหรือเปล่า….?” โดย ผศ. ดร.มณฑิรา ยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล กับการสำรวจองค์ประกอบและคุณสมบัติของดินในบ้าน สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนอยู่บ้านมากขึ้นนำไปสู่การหันมาปลูกต้นไม้และพืชผักสวนครัวมากขึ้น และอีกหนึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ “ความสำคัญของการสื่อสาร” โดยอาจารย์เมย์ ดร.ชนกพร พัวพัฒนกุล มหาวิทยาลัยมหิดล กับการฝึกทักษะการนำเสนองาน (presentation) ซึ่งเป็นทักษะที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพ ทั้งยังเป็นสิ่งที่น้อง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งกับกิจกรรมการนำเสนอโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมภายในค่ายฯ และการนำเสนออื่นๆ ในอนาคต
กิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหมดจะเป็นความรู้ตั้งต้นให้เยาวชนทั้ง 40 คนได้นำไปต่อยอดสู่การพัฒนาโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกิจกรรมปิดท้ายของค่ายเพาเวอร์กรีน โดยการจับกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในค่ายฯ ทีมละ 4 คน รวมเป็นจำนวน 10 ทีม เพื่อร่วมจัดทำคลิปวิดีโอนำเสนอแนวคิด กิจกรรม โครงงาน หรือสิ่งประดิษฐ์ ด้วยความยาวไม่เกิน 5 นาที ในหัวข้อ “ECO Living & Learning เปลี่ยนปรับสู่กรีนไลฟ์สไตล์ตอบรับ New Normal” เป็นการประมวลความรู้ที่ได้รับจากการมาเข้าร่วมค่ายเพาเวอร์กรีนในปีนี้
การนำเสนอโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของเยาวชนที่มาร่วมเข้าค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 16 จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 โดยทางค่ายฯ มีทุนการศึกษามอบให้กับทีมที่นำเสนอผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุด 4 รางวัล พร้อมรางวัลทีมขวัญใจมหาชน รวมมูลค่าเงินรางวัลมากกว่า 100,000 บาท
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
https://lin.ee/cXAf0Dp