โซนี่ไทยเปิดจองกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลส Alpha 7 IV ดีเดย์ 15 พฤศจิกายน

45

มิติหุ้น  –  บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด พร้อมเปิดจองกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสรุ่น Alpha 7 IV (อ่านว่า อัลฟ่า เซเว่น มาร์ค โฟร์) วันที่ 15 พฤศจิกายน ศกนี้ กล้อง Alpha 7 IV        เป็นกล้องแบบไฮบริดที่ต่อยอดมาจากกล้องรุ่น Alpha 7 III ที่พร้อมนำคุณก้าวสู่อีกระดับของมาตรฐาน          กล้องฟูลเฟรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพที่มีความละเอียดถึง 33 ล้านพิกเซล ผสานการทำงานกับระบบประมวลผลภาพอันทรงพลังรุ่นใหม่อย่าง BIONZ XR™ และความสามารถของระบบโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูง ขณะเดียวกันตัวกล้องยังรองรับเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงจากโซนี่อีกมากมาย รวมถึงได้รับการออกแบบมา เพื่อการทำงานที่คล่องตัวและน่าเชื่อถือครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาพยนตร์ จึงทำให้ Alpha 7 IV   เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบที่สุด สำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ พร้อมการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทรงประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ โซนี่ไทยยังได้แนะนำเลนส์ G Master FE 70-200mm F2.8 GM OSS II           (รุ่น SEL70200GM2เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล G Master ที่มาพร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก รวมทั้งแฟลชรุ่นใหม่ รุ่นด้วยกันคือ HVL-F60RM2 และ HVL-F46RM ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด ให้การควบคุมที่แม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยความเร็วสูงและใช้งานง่าย และได้รับการปรับปรุงด้านการถ่ายภาพต่อเนื่อง ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน โซนี่ยังได้เปิดตัวแคมเปญ “บิดสวิตช์ เพื่อชีวิตอีกด้าน” โดยร่วมมือกับ คอนเทนต์   ครีเอเตอร์ กว่า 20 ท่าน ในการถ่ายทอดผลงานคอนเทนต์ผ่านกล้อง A7 IV เพื่อสื่อสารถึงศักยภาพความคล่องตัวในการใช้งานกล้องควบคู่กันระหว่างภาพนิ่ง และวิดีโอ ช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านคุณภาพ และคุณสมบัติของกล้องที่โดดเด่น โดยแคมเปญ“บิดสวิตช์ เพื่อชีวิตอีกด้าน” จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ศกนี้จนถึงเดือนมีนาคม 2565 ผ่านช่างทางโซเชียลมีเดีย YouTube ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ รวมถึง Sony Digital Camera Thailand Facebook และ #บิดสวิตช์เพื่อชีวิตอีกด้าน

กล้อง Alpha 7 IV นวัตกรรมที่ไม่มีวันสิ้นสุ

กล้อง Alpha 7 IV เป็นกล้องไฮบริดที่อัดแน่นด้วยคุณภาพของภาพนิ่งที่โดดเด่นและเทคโนโลยีด้านวิดีโอที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ผสานการทำงานกับระบบโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูง รวมถึงความสามารถการทำงานที่เพิ่มขึ้นและเวิร์กโฟลว์ที่ได้รับการปรับปรุง ในขณะที่ตัวกล้องและบรรจุภัณฑ์ได้รับการผลิตจากวัสดุที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยผลิตขึ้นจาก SORPLAS™ ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิล และลดการใช้พลาสติกให้น้อยลง

คุณภาพของภาพอันโดดเด่น

ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R™ CMOS ที่ได้รับการปรับปรุงให้มี    ความละเอียดถึง 33 ล้านพิกเซล และอยู่ในกล้อง Alpha 7 IV     จะมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นและคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม โดยให้ค่าความไวแสงสูงด้วย ISO อยู่ที่ 50 – 204,800 เพื่อการ       ไล่ระดับสีที่ราบรื่น รวมถึงยังให้รายละเอียดและพื้นผิวของวัตถุในขณะลดสัญญาณรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังให้ Dynamic Range กว้างถึง 15 สต็อป นอกจากนี้กล้อง Alpha 7 IV ยังมาพร้อมการตั้งค่า Creative Look จะสามารถช่วยสร้างรูปลักษณ์ดั้งเดิมได้อย่างง่ายดายสำหรับภาพนิ่ง และวิดีโอ

ประสิทธิภาพอันทรงพลังของ AF

ด้วยระบบประมวลผลอันทรงพลังรุ่นล่าสุดอย่าง BIONZ XR™ เหมือนกับที่ใช้ใน Alpha 1 ซึ่งเป็นกล้องรุ่นเรือธงของโซนี่ จะให้ระบบออโต้โฟกัสความเร็วสูง ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 10 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติและการคำนวณการรับแสงอัตโนมัติ(AF/AE) และ Buffer ที่มีขนาดใหญ่             เพื่อประสบการณ์การถ่ายภาพที่ต่อเนื่องและยาวนาน ในขณะที่กล้อง Alpha 7 IV ยังให้การติดตามวัตถุ           ที่เคลื่อนไหวรวดเร็วได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบโฟกัสแบบ Phase Detection จำนวน 759 จุด ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 94% ของเซ็นเซอร์ภาพ นอกจากนี้ ยังนับเป็นครั้งแรกของกล้องในตระกูล Alpha Series ที่ออกแบบให้ระบบ Real-time Eye AF สำหรับนก และสัตว์ที่สามารถใช้ได้ทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ อีกทั้งยังให้ความแม่นยำในการตรวจจับใบหน้ าและดวงตาสำหรับมนุษย์ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่น Alpha  7 III

การปรับปรุงเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพยนตร์

กล้อง Alpha 7 IV ยังมาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีจากการผลิตภาพยนตร์ผสานคุณสมบัติการถ่ายภาพขั้นสูงจากกล้อง Alpha Series เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโปรไฟล์สี S-Cinetone ที่นำมาจากกล้องในตระกูล Cinema Line ของโซนี่ จะช่วยถ่ายทอดรูปลักษณ์ที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยภาพยนตร์ที่ได้รับความ

นิยมจากนักถ่ายภาพยนตร์และผู้สร้างภาพยนตร์ที่หลากหลาย ด้วยการบันทึกภาพยนตร์ที่มีความละเอียดภาพ       ที่ 4K/60p ในโหมด Super 35 มม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงในโหมดฟูลเฟรมยังให้การบันทึกสูงสุดที่ 4K/30p โดยการ Oversampling จากความละเอียด 7K เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพที่สูงสุด ในขณะเดียวกันยังรองรับระบบบันทึกสีแบบ 10bit 4:2:2 ในรูปแบบ All-Intra เพื่อให้การไล่ระดับสีที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ    อีกทั้งยังรองรับการบันทึกในรูปแบบ XAVC SI สำหรับเวิร์คโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ XAVC HS™ H.265 long-GOP ที่มีประสิทธิภาพการบีบอัดที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมความสามารถในการทำงานของโฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำ ในขณะที่คุณถ่ายวิดีโอ และใช้งานคู่กับเลนส์ E-Mount องโซนี่ รวมถึง AF Assist ที่สามารถรองรับการเปลี่ยนโฟกัสจากแบบ Manual Focus ด้วยการหมุนวงแหวนโฟกัสในขณะถ่ายวิดีโอ และเมื่อคุณหยุดหมุนระบบ AF ก็จะทำงานต่อได้โดยอัตโนมัติ และฟังก์ชั่น Focus Map ซึ่งทำให้การ Manual Focus ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถทำให้คุณรู้ได้ว่าในระหว่างที่คุณถ่ายวิดีโออยู่นั้นกล้องคุณทำการจับโฟกัสอยู่ในตำแหน่งใด ในขณะเดียวกัน      ตัวกล้องยังเพิ่มฟังก์ชั่น Breathing Compensation ที่จะช่วยแก้ไขปรากฏการณ์ของมุมรับภาพที่เปลี่ยนไปตามระยะโฟกัสในระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ โดยคุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้กับกล้อง และเลนส์ที่รองรับ รวมถึงยังสามารถเลือกการตั้งค่าเปิดหรือปิดได้อีกด้วย

ความสามารถในการใช้งานแบบไฮบริดขั้นสูง

กล้อง Alpha 7 IV เป็นกล้องแบบไฮบริดที่มาพร้อมฟังก์ชั่นอื่นๆโดยได้รับการออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมถึงแป้นหมุนสำหรับเลือกโหมดสองชั้น ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกและสลับการตั้งค่าระหว่างการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยบริเวณแป้นหมุนชั้นล่างถูกออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพในโหมดต่างๆ อาทิ ภาพนิ่ง/ภาพยนตร์/S&Q และบริเวณแป้นหมุนชั้นบนสุดถูกออกแบบให้สำหรับการปรับตั้งค่าโปรแกรมต่างๆได้ด้วยตัวเอง อาทิ Auto/P/A/S/M/MR เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล 5 แกนในตัว เพื่อความได้เปรียบด้านความเร็วชัตเตอร์ถึง 5.5 สต็อป เมื่อจับคู่กับอุปกรณ์เสริมอย่าง Grip    ที่ได้รับการออกมาแบบให้มีความทนทาน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในขณะใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมช่องใส่การ์ดที่รองรับ CF-Express Type-A ทำให้มีความเร็วการอ่านและเขียนข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงช่องมองภาพแบบ OLED Quad-VGA ที่มีความละเอียดถึง 3.68 ล้านจุด ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าช่องมองภาพของรุ่น Alpha 7 III  ถึง 1.6 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้งในโหมด Live View ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะช่วยลดสีที่ผิดเพี้ยนและเพิ่มความละเอียดของภาพได้เป็นอย่างดี

ด้วยระบบการระบายความร้อนของกล้อง Alpha 7 IV จะสามารถลดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ในขณะที่บันทึกวีดีโอที่มีความละเอียดของภาพระดับ 4K/60p ที่ 10bit 4:2:2 ได้ต่อเนื่อง    นานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่ตัวกล้องยังมี Active Mode ซึ่งเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหว ทำให้สามารถถ่ายภาพขณะเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมาพร้อมจอแสดงผล LCขนาด นิ้ว ความละเอียด 1.03 ล้านพิกเซล ที่อยู่บริเวณด้านหลังแบบสัมผัสสามารถเปิดจากด้านข้างและพับปรับองศาได้รอบทิศทาง รวมถึงปุ่ม REC ที่บริเวณแผงด้านบน     และแบตเตอรี่ Z-Series ที่มีความจุสูงเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน ผสานการออกแบบโครงสร้างของตัวกล้อง     ที่ทำมาจากโลหะผสมแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงและทนทานและปุ่มล็อคเลนส์ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่น และความชื้นที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 

การปรับปรุงสมรรถนะการทำงานของเวิร์กโฟลว์

กล้อง Alpha 7 IV ยังให้ความสามารถในการสตรีมวิดีโอ (Live-Streaming) และแบ่งปันเนื้อหาคุณภาพสูงได้ทันที ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างกล้องกับแอพพลิเคชั่น  Imaging Edge Mobile ทำให้สามารถควบคุมการถ่ายภาพระยะไกลได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยมได้อย่างง่ายดายผ่าน Bluetooth และรองรับการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วย Wi-Fi 5GHz[i]/2.4.GHz นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ “Shot Mark” ที่ให้คุณสามารถเข้าถึงฉากที่ทำเครื่องหมายไว้ในคลิปวิดีโอภายในกล้อง และ        ในแอพพลิเคชั่น Sony’s Catalyst Browse/Prepare  ได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นกล้อง Alpha 7 IV ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่สามารถรองรับการสตรีมวิดีโอผ่านการเชื่อมต่อ USB โดยใช้มาตรฐานเสียงและวิดีโอผ่าน UVC (USB Video Class) และ UAC (USB Audio Class) ที่จะเปลี่ยนกล้อง Alpha 7 IV ให้เป็นกล้องถ่ายทอดสดประสิทธิภาพสูง เมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนจะให้คุณภาพของภาพสูงในระดับ 4K/15p และ 1080FHD/60p ให้วิดีโอที่สมจริงสำหรับการแชร์จากระยะไกล และระบบอินเตอร์เฟซออดิโอแบบดิจิตอล Multi Interface(MI) ของกล้อง Alpha 7 IV สามารถทำงานร่วมกับไมโครโฟนและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อมอบเสียงคุณภาพสูงได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอ  ในปีหน้าโซนี่มีแผนที่จะนำเสนอระบบคลาวด์รูปแบบใหม่อย่าง “AI Video Editing Studio” สำหรับการตัดต่ออัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี AI โดยระบบคลาวด์รูปแบบใหม่ จะสามารถทำการแก้ไขเบื้องต้นในระบบได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งโซนี่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์ และบริการทางด้านภาพที่หลากหลายด้วยความก้าวหน้าของกล้อง ระบบคลาวด์ และ AI ต่อไปในอนาคต

การออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมของโซนี่ ภายใต้แนวคิด Road to Zero ทำให้กระบวนการผลิตและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของกล้อง Alpha 7 IV ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล หรือ  SORPLAS™ ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของโซนี่ด้านสิ่งแวดล้อมในการใช้วัสดุที่ช่วยลดปริมาณพลาสติก รวมถึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp