NCL ผงาด! เดินเครื่องลุยธุรกิจ Non-Logistics บุกตลาด Digital Marketing Services ขยายฐานรายได้

290

มิติหุ้น   –  นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2564 มีมติอนุมัติการลงทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท บีโอบี โฮลดิ้ง จำกัด (BOB) ซึ่ง BOB ถือหุ้นของบริษัท ชีส ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค จำกัด (CDN) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Marketing Services จำนวน 125,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว

“CDN ถือเป็นผู้ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ด้วยประสบการณ์ด้าน IT solution และ digital content มากว่า 10 ปี   และมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีรายได้สูงถึง 390 ล้านบาทต่อปี และมีอัตรากำไรขั้นต้นกว่า 43% ในปี 2562  ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ตลอดจนสามารถสร้างแหล่งที่มาของรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว  ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้เครือธุรกิจของ NCL เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น”

กรรมการผู้จัดการ NCL กล่าวอีกว่า ธุรกิจของ CDN แบ่งออกเป็น 3  ประเภท คือ 1. Digital content gateway หรือ บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยแพลตฟอร์มจัดการข้อมูล ข่าวสาร สาระ และความบันเทิงแบบครบวงจร   2. Digital solution หรือ บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับองค์กร ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่ง CND ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐและเอกชนให้พัฒนาเครือข่ายขนาดใหญ่, ดิจิทัลคอนเทนต์, แพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์, และระบบเทคโนโลยีอื่นๆ และ 3. Digital Agency หรือ บริการวางแผน, จัดทำ, และบริหารสื่อโฆษณาออนไลน์แบบ One-Stop Service เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ของลูกค้าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ CDN ยังเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ รายแรกๆของประเทศอย่าง edtguide.com ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในยุคดิจิตอล

สำหรับรายละเอียดในการลงทุนในกิจการของ BOB โดย NCL จะชำระค่าตอบแทนให้แก่ BOB จำนวน 250,189,432.20 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 72,518,676 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 13.46% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ในรูปแบบการเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อชำระค่าตอบแทนดังกล่าว โดยคณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดกรอบราคาเสนอขายขั้นต่ำที่ 3.45 บาทต่อหุ้น โดยอิงจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังก่อนวันจัดประชุมคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตามหากราคาเสนอขายมีมูลค่ามากกว่า 3.45 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้นที่บริษัทฯจะต้องออกเพื่อชำระค่าหุ้นสามัญของ BOB จะลดลง โดยคำนวณจากมูลค่ารายการ 250,189,432.20 บาท หารด้วยราคาเสนอขาย (ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเข้าทำรายการ) โดยคาดว่ารับโอนกิจการในครั้งนี้จะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2/2565

ทั้งนี้บริษัทฯได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวัน 25 มกราคม 2565  เวลา 10.00 น.ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2565 (Record Date) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564

ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp