นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต หรือ MTL เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ MTL วางเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ ที่มากกว่า 10% โดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติม การประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) ตั้งเป้าเบี้ยรับใหม่เติบโตมากกว่า 10% ประกันชีวิตควบการลงทุนโต 40-50% ประกันชีวิตประเภทคุ้มครองชีวิตเติบโต 7-10% และประกันชีวิตเพื่อการออม โตเพิ่มประมาณ 7-10%
โดยกลยุทธ์สำคัญจะมุ่งเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด พร้อมให้บริการที่ครบครันด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัย โดยจะไม่มองข้ามคนทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว หรือกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ LGBT เป็นต้น นอกจากนั้นยังคงให้ความสำคัญกับทุกช่องทางการขาย เพื่อสร้างการเติบโตของเบี้ยรับใหม่ โดยตั้งเป้าช่องทางตัวแทนจะผลิตเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ช่องทางการขายผ่านธนาคาร เติบโตมากกว่า 5% ส่วนช่องทางดิจิทัล เติบโต 100%
ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2564 ที่ผ่านมา MTL มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่ 10% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีเบี้ยรับใหม่อยู่ที่ 21,600 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีการเติบโตอยู่ที่ 31% มีสัดส่วนการขายแบบประกันชีวิตประเภทคุ้มครองชีวิตและประกันชีวิตควบการลงทุน (Protection and Investment Portion) สูงถึง 77% ขณะที่มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Investment Linked Product) อยู่ที่ 1,116%
ขณะที่ผลการดำเนินงานของธุรกิจในตลาดภูมิภาค (Regional Company) ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้มีการลงทุนใน บริษัท Sovannaphum Life Assurance ประเทศกัมพูชา มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก อยู่ที่ 30% บริษัท Dara Insurance ประเทศกัมพูชา ในส่วนของเบี้ยรับรวมเติบโต 18% บริษัท ST-Muang Thai Insurance ประเทศลาว มีอัตราการเติบโตของเบี้ยรับประกันภัยปีแรกอยู่ที่ 65% บริษัท MB Ageas Life ประเทศเวียตนาม มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับใหม่อยู่ที่ 35% และมีเบี้ยรับรวมในส่วนของช่องทางตัวแทนเติบโต 116%
“จากการเติบโตในทุกช่องทาง บริษัทจึงเชื่อว่ากำไรในปี 2564 ของบริษัทจะเติบโตได้ดีกว่าปี 2563 ที่มีกำไรราว 7,000 ล้านบาท” นายสาระกล่าว
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp