โรงงานน้ำตาล เสนอระบบประกันราคารับซื้ออ้อยที่ 1,200 บาทต่อตันอ้อย เริ่มฤดูการเพาะปลูกปี 2565/66 – 2567/68 เป็นระยะเวลา 3 ปี

170

มิติหุ้้น   –  โรงงานน้ำตาล เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านผลผลิตอ้อยต่อเนื่อง หนุนชาวไร่มีรายได้เพาะปลูกอ้อยมากขึ้น เสนอระบบประกันราคารับซื้อผลผลิตอ้อยสดคุณภาพดี ในรอบปีการเพาะปลูก 2565/66 – 2567/68 ที่ตันละ 1,200 บาท ณ ค่าความหวานเฉลี่ยย้อนหลัง ปี สร้างแรงจูงใจให้ชาวไร่ร่วมดูแลผลผลิตและนำส่งอ้อยสดเข้าหีบ ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ในระยะยาว ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายชาวไร่ และโรงงาน ต้องร่วมมือกันพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และบริหารการจำหน่ายน้ำตาลทรายทั้งในประเทศและส่งออกเพื่อเพิ่มรายได้ ส่วนภาพรวมหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2564-65 โรงงานเปิดหีบอ้อยไปแล้ว 58 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 50.55 ล้านตันอ้อย ผลิตน้ำตาลทรายได้ 52.96 ล้านกระสอบ คิดเป็นผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) อยู่ที่ 104.77 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และค่าความหวานอยู่ที่ 12.31 ซี.ซี.เอส. 

               นายสิริวุทธิ์  เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด หรือ TSMC เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลได้เสนอแนวทางการบริหารระบบราคาอ้อย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านผลผลิตและเพิ่มรายได้เพาะปลูกให้แก่ชาวไร่อ้อยมีความมั่นคงในการยึดอาชีพปลูกอ้อยจัดส่งให้แก่โรงงาน พร้อมร่วมมือกันพัฒนาระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้เข็มแข็ง โดยเสนอระบบประกันการรับซื้ออ้อยสดมีคุณภาพในรอบการเพาะปลูกปี 2565/66 – 2567/68 ในราคา 1,200 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 12.63 ซี.ซี.เอส. ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยความหวานย้อนหลัง รอบปีการผลิต จากเดิมที่ประกันราคารับซื้ออ้อยสดที่ราคา 1,000 บาท ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเพาะปลูกอ้อยของชาวไร่ โดยโรงงานน้ำตาลพร้อมสนับสนุนองค์ความรู้แก่เกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นหันมาเพาะปลูกอ้อยเพื่อจัดส่งให้แก่โรงงานเพิ่มขึ้น 

               ทั้งนี้ ระบบประกันราคารับซื้ออ้อยสดที่เสนอดังกล่าว เป็นผลมาจากการตอบรับของชาวไร่ที่ร่วมมือกันเพาะปลูกและดูแลผลผลิตอ้อยที่ดี ส่งผลให้ฤดูการหีบอ้อยปี 2564/65 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านตันอ้อย หลังภาพรวมการผลิตน้ำตาลทรายของโรงงานทั้ง 57 โรง ที่เริ่มเปิดรับผลผลิตอ้อย ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน รวม 58 วัน พบว่า มีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้ว 50.55 ตันอ้อย แบ่งเป็น ผลผลิตอ้อยสด 39.49 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 78.03ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเวลาหีบเท่ากันของปีก่อน และมีอ้อยไฟไหม้ 11.11 ล้านตัน คิดเป็น 21.97% ส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลอยู่ที่ 104.77 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวานที่ 12.31 ซี.ซี.เอส. 

               นอกจากนี้ โรงงานน้ำตาลทุกโรง ยังมุ่งมั่นลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ตามนโยบายของภาครัฐ โดยร่วมมือชาวไร่อ้อยและหน่วยงานราชการ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดหารถตัดอ้อยให้ชาวไร่อ้อยคู่สัญญารวมถึงรับซื้อใบอ้อยสด เพื่อแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 

               “โรงงานน้ำตาลพร้อมร่วมมือทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ซึ่งระบบราคารับซื้ออ้อยสดในราคาตันละ 1,200 บาท เป็นอีกหนึ่งในแนวทางจูงใจให้แก่ชาวไร่เพาะปลูกอ้อยที่มีคุณภาพและจัดส่งอ้อยสด สะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่กระบวนการหีบอ้อยเพื่อให้ได้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยเพิ่มขึ้น และมีรายได้สูงสุดจากการเพาะปลูกอ้อยและการผลิตน้ำตาล ยังช่วยลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ” นายสิริวุทธิ์ กล่าว