BAM โดย บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า กำไรสุทธิ Q4/64 กลับมาขึ้น และสูงสุดตั้งแต่ Q1/63 โดยประเมินอยู่ที่ 813 ล้านบาท (+2% YoY, +41% QoQ) โดยเป็นผลของ 1) Cash collection ที่ปรับตัวสูงขึ้น (+20% YoY, +23% QoQ) จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นภายหลังการคลาย lockdown และการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ทั้ง i. NPL จากการผ่อนเกณฑ์การประนอมหนี้ ทำให้ลูกหนี้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้น และ ii. NPA จากการทำการตลาดเชิงรุกต่อเนื่อง และรับรู้เงินสดรับจากลูกค้าที่ delay การโอน NPA มาจาก Q3/64
2) ค่าใช้จ่ายสำรองลดลง จากรายได้ดอกเบี้ยค้างรับที่หดตัวตาม Cash collection ที่ดีขึ้น ขณะที่ 3) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น +11% YoY, +10% QoQ จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีเป็นปกติ
ปรับกำไรสุทธิปี 2022E ขึ้น จากธุรกิจ NPL ที่ปรับตัวดีขึ้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E เพิ่มขึ้น +3% อยู่ที่ 3.12 พันล้านบาท (+29% YoY) จากการปรับเพิ่ม NPL collection/NPL เป็น 15% (เดิม 14%) ทำให้ NPL cash collection เพิ่มขึ้น +12% YoY เพื่อสะท้อนความสามารถในการจ่ายช าระหนี้ที่ดีขึ้นของ NPL ในช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัว และได้รับผลบวกจากสัดส่วนลูกหนี้ปรับโครงสร้างที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ฝ่ายวิจัยคงประมาณการต้นทุนการเข้าซื้อหนี้เสียที่ 8.0 พันล้านบาท จากการกลับมาขายหนี้เสียของสถาบันการเงิน หลังสิ้นสุดระยะเวลาช่วยเหลือลูกหนี้ใน ธ.ค. 2564 โดยยังไม่ได้รวม upside จากการจัดตั้ง JV เพื่อบริหารหนี้เสียได้ในช่วงครึ่งปีหลังปี 65 ที่คาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียม และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยคงแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 25.00 บาท จากเดิมที่ 20.50 บาท
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
