NT หนุนลูกค้าภาครัฐต่อยอดไฮบริดคลาวด์ยกระดับพัฒนาระบบไอทีองค์กร

346

มิติหุ้น   –  บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT  ผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมและบริการคลาวด์ในประเทศไทย ”NT Cloud”  ดาต้าเซ็นเตอร์มาตรฐานสากล  ระบบโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและโครงข่ายอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง   ร่วมกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS)  จัดงาน Executive Talk ครั้งที่ 1  “Key Considerations for Digital Transformation” ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ  โดยผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมกันให้ความรู้และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าหน่วยงานรัฐที่มีศักยภาพต่อยอดพัฒนาระบบงานด้วยเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ระดับโลก AWS Outposts   

นางสุวรรณา หรรษาจารุพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มขายและบริการลูกค้าองค์กร 1  NT กล่าวว่า
NT ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับหน่วยงานรัฐและเอกชน ได้พัฒนาเติมเต็มบริการด้วยไฮบริดคลาวด์โซลูชัน NT- AWS Outposts  เนื่องจากเทคโนโลยีคลาวด์และบิ๊กดาต้าคือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อน Digital transformation ของธุรกิจ  โดยเฉพาะธุรกิจในปัจจุบันต้องการคลาวด์ที่หลากหลาย และระบบงานที่บูรณาการมากยิ่งขึ้น  NT จึงมีเป้าหมายส่งเสริมให้ภาครัฐสามารถประยุกต์ใช้ไฮบริดคลาวด์ที่ทันสมัยซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางกับหน่วยงานองค์กรภาครัฐ ซึ่งรวมถึงทุกภาคส่วนในประเทศไทยและประชาชนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด

ดร.ยุทธศาสตร์ นิธิไพจิตร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคลาวด์และบิ๊กดาต้า กล่าวว่า หลังจากที่เทคโนโลยีได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ความอยู่รอดของธุรกิจคือต้องสามารถพัฒนาประสิทธิภาพบริการให้เข้ากับพฤติกรรมลูกค้า  ไม่เฉพาะเอกชนแต่บริการของภาครัฐยิ่งจำเป็นต้องทำทรานส์ฟอร์มเพื่อสร้างฟีดแบคเชิงบวกให้กับรัฐบาล
หลายโครงการของภาครัฐเน้นการดำเนินการที่รวดเร็วทันสถานการณ์ เช่น  หมอชนะ, Thailand PASS, National OCR, Health Link  เป็นต้น  ได้ใช้เทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการประชาชนจำนวนมาก  โดยอาศัยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของอินฟราสตรักเจอร์และความสามารถในการขยายเซิร์ฟเวอร์ระบบงานได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเครื่องมือและบริการเสริมต่างๆของ AWS ทั้งนี้จุดเด่นของ NT- AWS Outposts สามารถให้ความสะดวกในการทำงานเชื่อมต่อกันกับ Region AWS ประเทศสิงคโปร์ได้อย่างสะดวกบนระบบหน้าจอเดียวกัน  แต่ได้ความเร็วสูงกว่าโดย NT- AWS Outpost ค่าความหน่วงต่ำสุดคือ 22 MS (ค่าเฉลี่ย 44 MS)  ขณะที่ Region AWS สิงคโปร์ ต่ำสุด 52 MS (ค่าเฉลี่ย 66 MS)

อีริค คอนราด กรรมการผู้จัดการสำหรับกลุ่มลูกค้าภาครัฐของ AWS ภูมิภาคอาเซียน (Mr. Eric Conrad, Regional Managing Director, ASEAN)  กล่าวว่า ทางเลือกเดียวสำหรับธุรกิจหลังผ่านช่วงวิกฤตครั้งใหญ่คือการเลือกทำสิ่งที่แตกต่างและทดลองทำสิ่งใหม่ๆ  โดยเทคโนโลยีคลาวด์ของ  AWS สนับสนุนเป้าหมายหน่วยงานภาครัฐของไทยในการสร้างโปรเจ็กต์ใหม่ๆ  เพิ่มทักษะความพร้อมของบุคลากร  และย้ายระบบงานขึ้นสู่แพลตฟอร์มคลาวด์สร้างสภาพแวดล้อมใหม่แบบHome-based   ทั้งนี้ สามารถส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐของไทยในการใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการสาธารณะต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางสังคม คุณภาพชีวิต และความสะดวกสบายของประชาชน เช่นเดียวกับประเทศในอาเซียน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์  โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแบบองค์รวมเพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ

 จูเลียน เลา  (Mr. Julian Lau, Head of ASEAN, Worldwide Public Sector AWS)   กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับ Smart City หรือ Smart Village เกิดขึ้นได้ในประเทศต่างๆภายในเวลารวดเร็วเมื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะของคลาวด์  ซึ่งหมายถึงความสามารถให้บริการพื้นฐานที่จำเป็นทั้งหมดรวมถึงบริการขั้นสูง เช่น การเรียนรู้ด้วยสมองกล (ai), ข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้า และการเชื่อมต่อ IoT โดยบริการอัจฉริยะทั้งหมดนี้รวมอยู่ในโซลูชัน NT Cloud : Amazon Web Services (AWS) เพื่อหน่วยงานที่มีแนวคิดการทำงานใหม่ๆ สามารถที่จะนำไปขับเคลื่อนดำเนินโครงการได้ทันที

ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp