มิติหุ้น – นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W) เปิดเผยว่าในปี 2564 แม้ว่าธุรกิจอาหารจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด COVID-19 ซึ่งต่อเนื่องจากปี 2563 แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้เข้ากับยุค New Normal และการมุ่งเน้นแผนการตลาดให้มีความเข้มแข็งในเรื่องของแบรนด์มากขึ้น ทำให้ยอดขายจากกลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัทในปี 2564 เป็นจำนวน 412 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 203 ล้านบาท กล่าวคือเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 97 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการเติบโตของยอดขายในทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Kagonoya, Le Boeuf, BAKE Works และ DOMINO’S PIZZA และการรับรู้ยอดขายเต็มปีของแบรนด์ DOMINO’s Pizza ซึ่งในปี 2563 รับรู้ยอดขายเพียง 3 เดือน และในปี 2565 นี้ บริษัทมุ่งเน้นที่สร้างยอดขายและควบคุมค่าใช้จ่ายให้ถึงจุดคุ้มทุนและมีกระแสเงินสดที่เป็นบวกจากการดำเนินงาน
โดยปัจจัยที่จะสร้างยอดขายของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 นี้ คือการทำการตลาดผ่าน Data Analysis กล่าวคือ การนำข้อมูลในเชิงลึกมาเพื่อกำหนดแนวทางในการทำการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ เช่น การทำ Market Research หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อกำหนดราคาและ ออกสินค้าใหม่ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้จริง เช่น การให้สิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ หากลูกค้าไม่ได้รับการบริการตามมาตรฐานของแต่ละแบรนด์ที่ตั้งไว้
ในปี 2565 บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจเพื่อต่อยอดจากธุรกิจเดิม เช่น การลงทุนทำร้านอาหารในโรงแรมแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการอาหารเช้า กลางวัน เย็น การรับจัดเลี้ยง และ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในห้องพัก (room dining) โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นทั้งแขกที่เข้าพักในโรงแรมและบุคคลภายนอก และจะต่อยอดธุรกิจที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เช่น การให้บริการอาหารแบบ Fine dining การให้บริการอาหารที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบแบบ Farm to table รวมถึงการขยายสาขาของแบรนด์ต่าง ๆ ในทำเลที่มีศักยภาพ
การลงทุนต่อยอดธุรกิจในการทำร้านอาหารในโรงแรมนั้น เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่บริษัท เครปส์ แอนด์ โค. ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด หนึ่งในบริษัทย่อยของบริษัทได้เข้าลงนามบันทึกความเข้าใจในการร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท วันอินดรียา จำกัด ซึ่งบริหารงานโดย เชฟดีเค หรือดีแพงเกอร์ คอสลา (Deepanker Khosla) เชฟระดับนานาชาติและมีรางวัลการันตีและมีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมและร้านอาหารมามากกว่า 10 ปี ดังนั้น การร่วมลงทุนในครั้งนี้บริษัทจะได้รับโอกาสในการขยายขอบเขตธุรกิจเพื่อให้ครอบคลุมถึงธุรกิจจำหน่ายอาหารและ เครื่องดื่มในโรงแรม และได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการทำอาหารจากเชฟดีเคอย่างแน่นอน