YLG เผยรายได้ปี 64 แตะ 4.5 แสนลบ. สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของบริษัทไทย ชี้ทองแกว่งตัวเพิ่มโอกาสเก็งกำไรนักลงทุนตบเท้าเปิดพอร์ตออนไลน์พุ่ง 60%

130

มิติหุ้น – วายแอลจี เปิดรายได้ปี 2564 รวม 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นบริษัทไทยที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เผยปัจจัยบวกราคาทองแกว่งตัวสร้างโอกาสทำกำไรมากขึ้นส่งผลลูกค้าเปิดพอร์ตซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่าน www.ylgopenacc.com/   โตต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2565 เพิ่มขึ้น 60% เผยเคล็ดลับมัดใจลูกค้าด้วยบริการเด่น 7 ข้อ ให้ราคาดี ให้คำปรึกษาใกล้ชิด เทรดได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเดินทางมาเปิดบัญชีที่หน้าร้าน มีบทวิเคราะห์ทิศทางทองคำอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเลือกขายทองแล้วมารับที่หน้าร้านหรือเลือกบริการส่งแบบ Delivery และบริการด้วยหัวใจ ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวราคาทองคำ มองแนวรับ $1,700-$1,697 แนวต้าน $1,736-$1,751 ส่วนทองคำในประเทศมองเคลื่อนไหวในกรอบ 29,400 – 30,300 บาทต่อบาททองคำ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2564 ที่ผ่านมา YLG มีรายได้รวม 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของช่วงปีก่อน (YoY)  23.56%  เพิ่มขึ้น 8.44%  จากช่วงเดียวกันของช่วงปีก่อน (YoY)  โดยจากการสำรวจของ Creden Data ระบุว่าผลการดำเนินงานของ YLG ในปีที่ผ่านมาถือเป็นบริษัทที่ทำรายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 4 ของบริษัทไทย ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2564 จะเป็นช่วงที่มีความท้าทาย เนื่องจากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 แต่บริษัทชั้นนำของไทยยังคงเติบโตเอาชนะวิกฤตได้อย่างดี

สำหรับการเติบโตของรายได้ดังกล่าว มาจากการขยายบริการของ YLG ให้ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยบริการซื้อขายทองคําแท่งบริสุทธิ์ 99.99% มาตรฐาน LBMA (London Bullion Market Association)  และเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่มีบริการเปิดบัญชีเทรดทองคำแท่งออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงหน้าร้านก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายทองได้ สามารถซื้อขายเเบบราคาเรียลไทม์ Gold Spot 24 ชม. ผ่าน www.ylgopenacc.com/  ด้วยจุดเด่นของการให้บริการ 7 ข้อ คือ  1. ราคาดี 2. มีที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนตัว ให้ข้อมูลและดูเเลเเบบ Exclusive ตั้งเเต่เริ่มต้นการลงทุนในทุกขั้นตอน 3. เทรดราคาเรียลไทม์ Gold Spot ได้ตลอด 24 ชม. 4. เปิดพอร์ตช่องทางออนไลน์ได้ ไม่ต้องเดินทางมาที่บริษัท 5. บทวิเคราะห์อัพเดตรายวันจากนักวิเคราะห์มืออาชีพ 6. สามารถเลือกซื้อขายทอง หรือรับส่งทองที่บริษัท ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่จอดรถ​และห้องรับรองลูกค้า และ 7. ​พร้อมพนักงานบริการด้วย service mind ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้ YLG ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวผันผวน ส่งผลให้นักลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่หันมาเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น  ส่วนในปี 2565 YLG ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะแกว่งตัวผันผวนเช่นเดียวกับปีก่อน แม้ว่าเทรนด์ในระยะสั้นจะเป็นขาลง แต่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรตามรอบของการดีดตัวช่วงสั้น ซึ่งการที่ราคาทองคำยิ่งแกว่งตัวนักลงทุนก็ยิ่งมีโอกาสเก็งกำไรในระหว่างทางได้สูงขึ้น จากปัจจัยเหล่านี้จึงสนับสนุนให้ในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายทองคำโดยเฉพาะบัญชีออนไลน์กับ YLG เพิ่มขึ้น 2 เท่า และในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นอีก 60%

สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ YLG มองว่า หลังจากราคาลงมาทดสอบโซน 1,700-1,697 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้นทดสอบแนวต้านโซน 1,736-1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงขายกดให้ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้งเพื่อสร้างฐานราคาต่อไป ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานต้องจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะมีขึ้นช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ก็จะไม่มีผลต่อราคาทองคำมากนักเนื่องจากเป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่ถ้าหากปรับขึ้นมากกว่าอัตราดังกล่าวก็อาจจะส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำได้  ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อทองคำในช่วงนี้สามารถดูจังหวะซื้อที่แนวรับ 1,700-1,697 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ส่วนแนวต้านมองที่ 1,736-1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ขณะที่การเคลื่อนไหวในรูปของเงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29,400 – 30,300 บาทต่อบาททองคำ

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp