มิติหุ้น – STPI ปีนี้ไร้ตั้งสำรองฯ ช่วยกดผลขาดทุนลดลง ธุรกิจหลักยังเดินหน้าฉลุย ลุยชิงประมูลบิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท มีโอกาสได้งานเข้าพอร์ตสูง พร้อมกางงบ 3 พันล้านบาท ลุยลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ชี้ปี 62 ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. เอสทีพี แอนด์ ไอ หรือ STPI โดยแหล่งข่าวอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทคาดปีนี้ขาดทุนลดลง จากปีก่อนที่ขาดทุน 2,495.80 ล้านบาท เหตุจากมีการตั้งสำรองคดีความไว้ 1,500-1,600 ล้านบาท ของลูกค้ารายหนึ่งที่มิได้ชำระเงินตามที่กำหนดไว้ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะไร้ซึ่งการตั้งสำรองแล้ว แต่ในส่วนของงานธุรกิจModule หรือ การติดตั้งโครงสร้างเหล็ก ในขณะนี้มีเพียงงานขนาดเล็ก มูลค่าหลักร้อยล้านบาท ซึ่งไม่สามารถครอบคุมต้นทุนที่ใช้ต่องานได้ แต่ทางบริษัทมีความจำเป็นต้องรับงานดังกล่าวมา เนื่องจากต้องมีค่าใช้จ่ายภายในบริษัท
สำหรับธุรกิจเทรดดิ้งผลิตภัณฑ์เหล็ก ในปีนี้ยังสามารถเติบได้ เนื่องจากได้พาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างเข้ามา ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ชิงประมูลบิ๊กโปรเจ็กต์ 3 หมื่นล.
ส่วนธุรกิจพลังงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน คาดจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ และเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปีหน้า กำลังการผลิตเบื้องต้น 7.9 เมกะวัตต์ ขณะที่ธุรกิจแวร์เฮาส์ เติบโตได้ดี ภายหลังจากที่ซื้อมาเมื่อปีก่อน ส่งให้บริษัทมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงาน Module ประเภทโรงแยกก๊าซ มูลค่าราว 30,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะสรุปในช่วงปลายปีนี้
อีกทั้งบริษัทยังวางงบลงทุนไว้มากกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหลายประเภท ทั้งที่มีใบอนุญาตขายไฟ (PPA) รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโครงการใหม่ และยังนำมาซื้อแวร์เฮาส์เพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทมากยิ่งขึ้น โดยเม็ดเงินเป็นเงินสดในมือทั้งหมด และยังสามารถกู้สถาบันการเงินได้อีกค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.27 เท่า
ปั๊มผลงาน ดันธุรกิจกลับมาสดใส
สำหรับแนวโน้มปี 2562 บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งรายได้ที่เติบโตและพลิกมีกำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากจะได้ข้อสรุปของคดีความจากที่ตั้งสำรองไว้ 1,500-1,600 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังมีค่าฟ้องร้อง ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยอีกกว่า 2,000 ล้านบาท หากบริษัทชนะคดี และยังมีงานใหม่และขนาดใหญ่เข้ามา หลักหมื่นล้านบาท และยังรับรู้ผลการดำเนินงานจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่แห่งใหม่ที่ COD ได้ 5.5 เมกะวัตต์ และมีพื้นที่แวร์เฮาส์เพิ่มขึ้นตามการลงทุนของปีนี้
www.mitihoon.com
