บล.เอเซีย พลัส l บทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุนเดือนสิงหาคม INVEST+

171

บล.เอเซีย พลัส ขอส่งบทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุนเดือนสิงหาคม มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

  • แรงกดดันจากเงินเฟ้อ, ราคา Commodity, อัตราเร่งขึ้นดอกเบี้ย กำลังผ่านจุดพีค
  • ความกังวลเศรษฐกิจชะลอมีมากขึ้น ต้องระวังการปรับประมาณการกำไรตลาด
  • หวัง Fund Flow ครึ่งเดือนหลังจะดีขึ้น แนะสะสมหุ้นที่ SET ต่ำกว่า 1570 จุด
  • หุ้นแนะนำ CENTEL, BEM, CRC, KTB, GPSC, TRUE, KCE

เดือนส.ค. มุ่งหน้าสู่ตาพายุ หลังผ่านไปได้จะสดใสขึ้น เริ่มจากปลาย เดือน ก.ค. IMF ปรับคาดการณ์ World GDP Growth ปี 65 และ 66 ลงเหลือ 3.2% และ2.9% ตามลำดับ ผลสืบเนื่องจากสงครามรัสเซียยูเครน ราคาอาหารและพลังงานอยู่ในระดับสูง รวมถึงเศรษฐกิจจีน ชะลอมากกว่าที่คาด ทำให้เปิด Downside ต่อประมาณการ เศรษฐกิจโลกต่อเนื่อง และอาจผลักดันให้บางประเทศเข้าสู่ภาวะ ถดถอยตามนิยาม Technical Recession รวมถึงความกังวลเรื่อง การเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในรูปแบบที่คล้ายกับศรีลังกา อาจมีเข้ามา รบกวนเป็นระยะ แต่ประเทศไทยจะยังห่างไกลจากภาวะดังกล่าว หลังจากนั้นจะตามมาด้วยราคา Commodity ที่ลดต่ำลง แม้กรณี ดังกล่าวจะดีต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ แต่ก็จะมี Time Lag ราว 2-3 เดือน เท่ากับว่าเงินเฟ้อในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ยังอยู่ระดับสูง กดดัน ให้เห็นการใช้นโยบายการเงินตึงตัวเชิงรุกต้องดำเนินการต่อ ปัจจัยดังกล่าว กดดันค่าเงินบาทยังอยู่ในโซนอ่อนค่า พร้อมกับ Fund Flow ชะลอการไหลเข้าตลาดหุ้นไทย จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไทย สหรัฐที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะช่วงแรกของเดือน ส.ค. แต่การไหลออก อาจชะลอลง และอาจกลับมาเป็นแรงซื้อ หลังกนง.มีการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการส่งสัญญาณฟื้นตัวของ GDP งวด 2Q65 จะถือเป็น สัญญาณที่ดี สะท้อนจากสถิติในอดีต เวลาที่ GDP ไทยเติบโต แต่ GDP สหรัฐติดลบ ตลาดหุ้นไทยมักพลิกกลับมา Outperform และ ชนะตลาดหุ้นสหรัฐในไตรมาสนั้นๆ ได้ เดือน ส.ค. ยังเป็นช่วงรายงานงบ 2Q65 ของ Real Sector อาจทำ ให้ตลาดหุ้นผันผวนบ้าง แต่ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงมาพอสมควรในช่วง ที่ผ่านมา หาก Downside กำไรจำกัด หรือมีการปรับประมาณการ กำไรทั้งปีลงไม่มาก อาจเห็น SET Index รีบาวน์กลับ หลังการ ประกาศงบ 2Q65 เสร็จสิ้น ราวช่วงครึ่งหลังของเดือน ส.ค. ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. แต่เมื่อ ผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปได้ ก็จะเห็นตลาดหุ้นที่มีแรงกดดันลดระดับ ลง และเริ่มฟื้นตัวกลับได้อีกครั้ง ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหา โซนเข้าสะสมในมุมพื้นฐาน เพื่อหวังผลในระยาวได้ง่ายขึ้น ซึ่งโซนเข้า สะสมที่เหมาะสมแรก คือ ระดับที่ดัชนีต่ำกว่า 1570 จุด เป็นระดับที่ รับความเสี่ยงการปรับขึ้นดอกเบี้ยไทย 0.75% ในช่วงที่เหลือของปีไป แล้ว และระดับถัดมา คือ โซน 1515 – 1530 จุด เป็นโซนที่ SET Index เคลื่อนไหวตอนเผชิญเหตุการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธ์ เดลต้าหนักๆ (ช่วงครึ่งเดือนแรกของ ส.ค. 64) จน GDP งวด 3Q64 พลิกกลับไปติดลบ -0.9%QoQ ขณะที่ปัจจุบันความกังวลการแพร่ ระบาดจากฝีดาษลิง และโควิดถือว่าผ่อนคลายกว่ามาก กลยุทธ์การลงทุนเดือน ส.ค. 65 แนะนำทยอยสะสมหุ้น 3 กลุ่มที่คาด ว่าจะ Outperform ตลาดได้คือ 1) หุ้นกลุ่มเปิดเมือง CENTEL, BEM, CRC 2) หุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น KTB 3) หุ้นย่อตัว แนวโน้มกำไรดีขึ้นแรงกดดันลดลงตามลำดับ GPSC TRUE KCE

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp