ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีทีโกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาทจากเป้ายอดขายต้นปีที่ 4.8 แสนล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันในปัจจุบันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยทั้งปีบริษัทได้ปรับประมาณการราคาน้ำมันเพิ่มเฉลี่ย 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมประมาณการไว้ที่ 52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/2561 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาส1/2561 นั้นเฉลี่ยในระดับ 63.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากการสต๊อกน้ำมัน ส่วนค่าการกลั่น (GRM) คาดว่าจะเฉลี่ยนในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส1/2561 ที่ระดับ 6.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะทั้งปีคาดว่าจะเฉลี่ยนไม่ต่ำกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ แล้วในช่วงไตรมาส2/2561 สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังผลิตทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีโดยไม่มีการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ก็อยู่ในระดับสูงทุกผลิตภัณฑ์ เช่น ราคา HDPE ปัจจุบันอยู่ในระดับ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนสเปรด HDPE-Naphtha ช่วงไตรมาส2/2561 คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่า 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนทั้งปีคาดว่าจะอยู่ในระดับ 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วน EBITDA Margin ในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 13-14% สำหรับค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่า ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรของบริษัท โดยค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าทุก 1 บาทจะมีผลต่อกำไรของบริษัทเฉลี่ยน 500-1,000 ล้านบาทต่อปี
พร้อมกันนี้บริษัทยังมองหาโอกาสขยายการลงทุนต่อเนื่องโดยเฉพาะการซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ เนื่องจากมีเงินสดในมือราว 65,000 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินต่อทุน D/E อยู่ในระดับ 0.3 เท่า ส่วนหนีสินรวมที่ 94,000 ล้านบาท