มิติหุ้น – นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบธุรกิจ Security Printing ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 2 ปี 2565 (1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2565) มีกำไรสุทธิ 141.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.3 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 116.8 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 356.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 133.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.2 โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของยอดขายกลุ่มธุรกิจบัตรพลาสติกจากการที่บริษัทฯ ได้ขายกลุ่มธุรกิจดังกล่าวออกไปในไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา
“ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2565 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรเป็นผลจากการเติบโตของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 12.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.9 เป็นผลจากการบริหารต้นทุนการผลิตและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการขยายกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมและการค้าจำนวน 12.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 ทั้งจากบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX และบริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH” นายจุติพันธุ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 284.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.1 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 223.9 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 754.4 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 21.4 โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของยอดขายกลุ่มธุรกิจบัตรพลาสติก และการลดลงของยอดขายกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ป้องกันการปลอมแปลงที่มีการชะลอตัว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนแรกประจำปี 2565 เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 61 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 22 สิงหาคม 2565 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2565
โดยกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2565 ภาพธุรกิจของ TKS จะเปลี่ยนไปเป็น Tech Ecosystem Builder มากขึ้น และยังคงเดินหน้าในการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อบรรลุกลยุทธ์ของบริษัทและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ปัจจุบันถือว่า TKS เดินมาถูกทาง ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้บริษัทเราเข้มแข็งมากขึ้น เชื่อว่าปีนี้เป็นปีที่จะทำผลงานได้ดี โดยจะเติบโตใน 3 ธุรกิจ หลัก คือ Fulfillment Solution , Label & Packaging Solution และ Platform Solution ปีนี้คาดจะมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
“สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทขณะนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่อง มีการ Diversify ธุรกิจ ล่าสุดบริษัทได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC จำนวน 32.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 9% เป็นการเสริมศักยภาพด้านไอทีจากปัจจุบันบริษัทมี SYNEX ร่วมเติมเต็มอีโคซิสเต็ม อีกทั้ง MSC ดำเนินธุรกิจมายาวนาน มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดี ทำให้ต่อยอดการเติบโตในแง่ของศักยภาพในการรับรู้ผลกำไรจากรายได้เงินปันผล และสอดคล้องกับนโยบายในเรื่องของการเป็น Tech Ecosystem Builder” นายจุติพันธุ์ กล่าว
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานยังเป็นไปตามที่คาด TKS ให้ความสนใจที่จะร่วมเข้าซื้อและควบรวมกิจการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ต่อยอดธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของดีลนั้นๆ โดยไม่ได้จำกัดโอกาสในการลงทุน
สำหรับการลงทุนผ่าน บริษัท เน็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด ในปี 2565 มีโอกาสเห็นการเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพหรือธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการลงทุนในบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ ที่ดำเนินธุรกิจสายเทคโนโลยี Digital Transformation เพื่อเปิดประตูสู่ธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกในอนาคต
@mitihoonwealth