มิติหุ้น – นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มีแนวโน้มทรงตัว ภาครัฐเดินหน้าลงทุนงานโครงการเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ งานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ เร่งการก่อสร้างเพื่อส่งมอบงานให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางไว้ ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทปรับกลยุทธ์ มุ่งเน้นงานโครงการระยะสั้น ที่สามารถรับรู้รายได้เร็ว พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ ๆ จากทั่วประเทศเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
อีกทั้ง บริษัทวางแผนพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ติดตั้งเครื่องจักร เพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน ช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่ช่วยแก้ปัญหางานก่อสร้าง ลดต้นทุน ทำให้งานเสร็จรวดเร็ว อาทิ กลุ่มบล็อกกำแพง บล็อกกันหน้าดิน บล็อกปูพื้น รองรับงานก่อสร้างที่หลากหลาย ควบคู่กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน เพื่อรับมือความเสี่ยงจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาเชื้อเพลิงและ ต้นทุนวัตถุดิบที่ยังคงผันผวน
ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 635.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 624.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.22 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.52 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,248.88 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,299.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31.09 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้รวมไตรมาส 2 ปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรับรู้รายได้จากงานโครงการใหญ่ต่อเนื่อง รวมถึงงานก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท โครงการพิเศษทางหลวงระหว่างเมือง โครงการสนามบิน โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนต่อขยาย ภาคเอกชน อาทิ นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง
ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากผลกระทบ ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจ
@mitihoonwealth