มิติหุ้น – นาย วิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับเม็ดเงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ราว 1.15 หมื่นลบ.โดยหลักจะนำไปใช้คืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น (Bridging Loan) กับ PTT และสถานบันการเงิน ซึ่งจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่าย ปีละ 200 ลบ.และทำให้ D/E ต่ำกว่า 1 เท่า ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดในมือเพิ่มกว่า 1 หมื่นลบ.
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากค่าการกลั่นที่ยังอยู่ในระดับสูงตามทิศทางตลาดน้ำมันที่เพิ่มสูง
นาง วนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางงบครึ่งปีหลัง 65 อยู่ที่ 980 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.4 หมื่นลบ. โดยแบ่งเป็นใช้ลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (CFP) 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 2.1 หมื่นลบ. งบประมาณการลงทุนโครงการโอเลฟินใน PT Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) ในอินโดนีเซีย 270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 9 พันลบ. โดยจะจ่ายอีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หาก CAP ตัดสินใจขยายกำลังการผลิต (CAP2 ) โดยจะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าไอน้ำของ TOP SPP ราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.7 พันลบ.
ทั้งนี้บริษัทให้ความสนใจขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 2573 จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 1 ใน 3 หรืออย่างน้อย 33-34%
@mitihoonwealth