มิติหุ้น- JASIF หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จัสมิน ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการเจรจากับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของ JASIF เพื่อปรับโครงสร้างการชำระหนี้เงินกู้ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้เงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของธุรกิจที่จะลดลงหากผู้ถือหน่วยลงทุนอนุมัติตามข้อเสนอของ AIS ในการปรับโครงสร้างค่าเช่า และเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนหลักมาเป็น AWN ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สินในครั้งนี้จะทำให้ JASIF มีการประหยัดค่าใช้จ่ายการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้ประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาทต่อปีในช่วงระยะเวลา 5 ปีแรกหลังจากสัญญาใหม่มีผล ซึ่งจะทำให้เงินปันผลเพิ่มขึ้นได้ตามสัดส่วนของภาระที่ลดลงหรือคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.13 บาทต่อหน่วยต่อปี ซึ่งหากรวมกับข้อเสนอการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าจำนวนเงินรวม 3,000 ล้านบาทที่ AIS ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ จะทำให้เงินปันผลในช่วง 3 ปีแรกของ JASIF ใกล้เคียงกับที่ได้รับจากสัญญาเช่าเดิม
รายงานที่กองทุน JASIF ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ให้เหตุผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการชำระหนี้เงินกู้ของ JASIF นี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนเป็น AWN ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ความเสี่ยงของธุรกิจของกองทุนรวมลดลง ประกอบกับโครงสร้างค่าเช่าใหม่จะทำให้ 3BB สามารถแข่งขันในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสุดท้ายผู้เช่าที่แข็งแกร่งขึ้นก็จะกลับมาส่งผลดีต่อกองทุน JASIF เอง
สำหรับในระยะยาว การที่ AWN ก้าวเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ให้แก่ JASIF จะทำให้ความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนภายนอกได้มากขึ้น ส่งผลให้ JASIF มีความสามารถในการซื้อสินทรัพย์โทรคมนาคมใหม่ๆ เข้าสู่กองทุนและรับผลตอบแทนได้มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่ AIS เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญของกองทุน JASIF ในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ได้รับการอนุมัติเท่านั้น
ด้าน บล.เอเชีย พลัส เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ข้อเสนอใหม่ของ AIS น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ได้มากขึ้นจากการที่ JASIF จะได้รับกระแสเงินสดเข้ามาในมือกว่า 1,000 ล้านบาทหรือคิดเป็น 0.125 บาทต่อหุ้นจากการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าของ AIS ซึ่งเมื่อรวมกับประมาณการณ์เงินปันผลปี 2566 จะอยู่ที่ 0.77 บาทต่อหุ้น
ยิ่งไปกว่านั้นหากรวมเงินปันผลที่จะได้จากการประหยัดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในจำนวน 0.125 บาทต่อหุ้น ก็จะส่งผลให้เงินปันผลของกองทุน JASIF เพิ่มขึ้นไปอีก โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ใกล้เคียง 10%.
@mitihoonwealth