มิติหุ้น-MC และบริษัทย่อย ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ 232 ล้านบาทเทียบเท่าปีก่อนหน้า ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51.1 เป็นร้อยละ 57.0 และอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 18.8 เป็นร้อยละ 20.3 ทั้งนี้รายได้รวมปรับตัวลดลงร้อยละ 7.6 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนไปอยู่ที่ 1,143 ล้านบาท เนื่องจากฐานรายได้ที่สูงในไตรมาส 1 ปี 2560 จากการจำหน่ายสินค้าสีขาวและสีดำ
คุณสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2561 นี้ บริษัทฯสามารถรับมือกับสภาวะการจับจ่ายใช้สอยที่ยังคงซบเซาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและจากการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกาย ด้วยกลยุทธ์การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านระบบสมาชิก ‘Mc Club’ ที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น รองเท้าผ้าใบรุ่น Selvedge Walker ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของยีนส์ริมแดง ความร่วมมือกับ The Walt Disney Thailand ในการออกเสื้อ Sport Fashion ในคอลเลคชั่น Marvel เอาใจกลุ่มวัยรุ่นที่มีจำนวนมากขึ้น ตลอดจนความร่วมมือกับ Warrix ที่ได้ลิขสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องหอมใหม่ เช่น Diffuser ก้านไม้น้ำหอมปรับอากาศ
ที่ทางบริษัทฯได้จัดจำหน่ายพร้อมผลิตภัณฑ์อื่นของ M&C และ Nature Touch ผ่านจุดจำหน่ายใหม่ภายใต้ชื่อ Aromatique Active ที่ห้างสรรรพสินค้าชั้นนำ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ออกคอลเลคชั่นพิเศษ Mc Biker Denim ‘Motorcycle Series’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณสมบัติของชุดแข่งรถที่ผสมผสานความคล่องตัวไว้ในผ้ายีนส์ที่มีส่วนประกอบของ Kevlar เพิ่มความปลอดภัยและ Spandex และ T400 ที่เพิ่มความยืดหยุ่นและการคืนตัวของผ้า สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความคล่องตัวในการสวมใส่ ซึ่งถือเป็นสินค้ายีนส์ที่โดดเด่นและสร้างความเป็นตัวตนให้กับผู้ที่ชื่นชอบยีนส์ได้เป็นอย่างดี”
คุณบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวเสริมถึงแผนกลยุทธ์ว่า “การบริหารจุดแข็งของธุรกิจโดยเชื่อมโยงหน้าร้าน (Offline) และช่องทางออนไลน์ตามกลยุทธ์ Omni Channel มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การนำท้ายใบเสร็จจากการซื้อของหน้าร้านไปรับสิทธิพิเศษที่ช่องทางออนไลน์ และการเปิดตัวบริการ ‘Ship to shop’ เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งซื้อจากช่องทางออนไลน์สามารถเลือกมารับสินค้าที่หน้าร้านนอกเหนือจากที่บ้านหรือที่ทำงานเพื่อการบริการหลังการขายที่ไร้รอยต่อ ที่ทำให้การซื้อของเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย”
คุณบัณฑิต ได้กล่าวสรุปว่า“ด้วยแผนงานต่างๆที่กล่าวมา บริษัทฯสามารถส่งผ่านประสบการณ์ที่มีความสนุก เร้าใจและคุ้มค่าสู่ลูกค้าทุกๆคนด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากปีก่อนหน้าที่ใช้ประโยชน์จากการเติบโตของยอดขายโดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งนี้บริษัทฯ มีรายได้ในไตรมาส 1 ปี 2561 อยู่ที่ 1,143 ล้านบาท กำไรขั้นต้นที่ 634ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 57.0 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51.1 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 232 ล้านบาท หรือเทียบเท่าร้อยละ 20.3 จากร้อยละ 18.8 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2560”