“โลตัส” (Lotus’s) เคาะอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 รุ่น จากทั้งหมด 4 รุ่น ชูอัตราดอกเบี้ย 3.25-4.00% ต่อปี พร้อมเสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่-ผู้ลงทุนสถาบัน 17-19 ตุลาคม 2565 ปลื้มกระแสตอบรับคึกคัก หลังชูจุดเด่นครั้งแรกของการลงทุนในหุ้นกู้ธุรกิจค้าปลีกแบบ Omni-Channel

76

มิติหุ้น – “โลตัส   (Lotus’s)) ผู้นำค้าปลีก New SMART Retail ดำเนินงานภายใต้ชื่อจดทะเบียน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (“บริษัทฯ”) ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่นจากทั้งหมด 4 รุ่นที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยหุ้นกู้รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ขณะที่รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน จะประกาศอัตราดอกเบี้ยให้ทราบในภายหลัง พร้อมเสนอขายระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2565 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง เผยกระแสตอบรับในขณะนี้เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจาก “โลตัส” สร้างปรากฏการณ์ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ที่นับเป็นครั้งแรกของธุรกิจค้าปลีกแบบ Omni-channel  ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้      แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” ตอบโจทย์ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ที่แสวงหาโอกาสลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย  เปิดเผยว่า บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) มีความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยล่าสุดได้ประกาศอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่นจากทั้งหมด 4 รุ่น ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ในระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2565 โดยหุ้นกู้รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ส่วนรุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน จะประกาศอัตราดอกเบี้ยให้ทราบในภายหลัง สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่สามารถจองซื้อผ่านผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ทั้งสิ้น 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)  ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน)

“เป็นที่น่ายินดีที่ หุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ที่สอบถามผ่านมายังผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสนใจดังกล่าวสะท้อนปรากฏการณ์ที่สำคัญในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพราะถือเป็น “ครั้งแรก” กับการลงทุนในหุ้นกู้ของธุรกิจค้าปลีกแบบ Omni-channel ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) และถือเป็น “ครั้งแรก” ของการออกหุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งด้วยอายุของหุ้นกู้แต่ละรุ่นที่มีความหลากหลาย ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” ซึ่งจัดอันดับ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ทำให้หุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนรายใหญ่ได้เป็นอย่างดี” ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบัน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย  ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีก จำนวน 2,597 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 224 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 2,171 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าทั้ง 2,597 แห่งทั่วประเทศในการเป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) อาทิ Grab, Shopee และ Lazada เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค ตลอดจนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของ “โลตัส” (Lotus’s) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 201 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 784,612 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก โดยในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 69 แห่ง ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 89% และบริษัทฯ ถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ผลประกอบล่าสุดครึ่งปีแรกของปี 2565 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp