ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัทร่วมลงทุนในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY ร่วมกับ บมจ.ปตท. หรือ PTT บริษัท แอดเวนเจอร์ ในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCC และ 500 TukTuks เวนเจอร์ แคปิตอลในกลุ่ม 500 Startups จากซิลิคอน วัลเลย์ สหรัฐอเมริกาผู้ร่วมทุนเดิม ร่วมลงทุนในบริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด โดยหวังใช้ความเชี่ยวชาญของบาเนียด้านเทคโนโลยี Big Data ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มธุรกิจ นำโดย ธุรกิจสินเชื่อบ้านของกรุงศรี ธุรกิจค้าปลีกของ ปตท. และเอสซีจี
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือ BAY เปิดเผยว่า เรื่องเทคโนโลยี Big Data และการทำ Data Analytic เป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งการเข้าร่วมลงทุนในบาเนีย จะช่วยให้กรุงศรีสามารถต่อยอดข้อมูลและเทคโนโลยีต่างๆ ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อบ้านให้ตอบโจทย์ลูกค้าและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในอนาคต
ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุน 3 ดีล โดยเน้นธุรกิจ AI-Cyber security และมีวงเงินเหลือลงทุนรวม 20 ล้านเหรียญฯ
นายดุสิต ชัยรัตน์ Corporate Venture Capital Fund Manager ofAddVentures โดยเอสซีจี กล่าวว่า การตัดสินใจเข้าลงทุนในครั้งนี้ เนื่องจากบาเนียมีการนำ Big Data, AI และ Machine ที่สามารถต่อยอดกับธุรกิจของเอสซีจี โดยเฉพาะส่วนของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยการใช้ข้อมูลที่บาเนียรวบรวมและจัดเก็บไว้ มาทำให้เอสซีจีเข้าใจผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีเงินลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพช่วง 5 ปี ระหว่างปี 2560-2564 ราว 3,000-5,000 ล้านบาท โดยสนใจลงทุนปีละประมาณ 5-7 โครงการ
นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิตอล บมจ.ปตท. หรือ PTT กล่าวว่า การร่วมลงทุนในบาเนีย จะเป็นประโยชน์ต่อกลยุทธ์การลงทุนของกลุ่ม ปตท. เพื่อขยายและต่อยอดธุรกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจพลังงาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดย ปตท. คาดหวังการลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นการริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Smart City
นางสาวอัญชนา วัลลิภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากระดมทุนครั้งแรกในปี 2560 บริษัทได้พัฒนาฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในเว็บ Baania.com เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภค โดยมีข้อมูลโครงการครอบคลุม 15 จังหวัด ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก มากกว่า 13,622 โครงการ มีบ้านอยู่ในระบบ 2,265,214 หลัง และแบบบ้าน 27,291 แบบ และมีผู้เข้าใช้งานในระบบกว่า 4,000,000 ราย ทำให้มีข้อมูลในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคกว่า 700 ล้าน Data Point
ส่วนการระดมทุนในปี 2561 บาเนียจะขยายการพัฒนาฐานข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครบ 26 จังหวัดหลักทั่วประเทศ เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลในภาคใต้ ภาคตะวันตก และเพิ่มผู้ใช้บริการในระบบเป็น 7,000,000 คน พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น Search by Lifestyle ระบบการค้นหาที่อยู่อาศัยตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต Bestimate ระบบประมาณราคาบ้าน และ Baania Pulse: Deep Social Listening สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
www.mitihoon.com
