NWR แต่งตั้ง 3 บล. ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 2 ปี 6.90% ขายเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่

102

มิติหุ้น – ​บมจ. เนาวรัตน์พัฒนาการ (“บริษัท”) ออกหุ้นกู้ครั้งใหม่หลังจากที่หุ้นกู้ตัวล่าสุดครบกำหนดไถ่ถอนไปเมื่อปี 2563 โดยแต่งตั้ง บล. ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน), บล. บลูเบลล์ จำกัด และบล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ร่วมกันจัดจำหน่ายหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี

นายพลพัฒ กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เนาวรัตน์พัฒนาการ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทเคยออกหุ้นกู้มาแล้ว 3 ครั้งเมื่อปี 2557 จำนวน 1,500 ล้านบาท ปี 2558 จำนวน 1,500 ล้านบาท และ ปี 2560 จำนวน 1,720 ล้านบาท รวมมูลค่า 4,720 ล้านบาทซึ่งในตอนนั้นเป็นหุ้นกู้ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB- ทางบริษัทชำระดอกเบี้ยครบทุกงวด และคืนเงินต้นเป็นที่เรียบร้อย ส่วนในครั้งนี้ เราตัดสินใจออกหุ้นกู้ แม้ว่าจะไม่ได้ทำอันดับความน่าเชื่อถือ เพราะครั้งนี้เป็นการออกหุ้นกู้จำนวนไม่มาก แต่เราก็วางแผนที่จะกลับมาทำในอนาคต

นางอัศมาภรณ์ ปัญจนวพร รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจตลาดทุน บล. ไอ วี โกลบอล กล่าวเสริมว่า “ทางผู้จัดการการจัดหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 3 บล. พิจารณาเรื่องความเหมาะสมของโครงสร้างหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนเป็นสำคัญ จึงปรึกษาร่วมกับบริษัทวางแผนการออกหุ้นกู้ครั้งนี้อายุไม่ยาวมาก คือ 2 ปี ซึ่งก็ตรงกับความต้องการใช้เงินของบริษัทที่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะนำมาชำระคืนหนี้หุ้นกู้ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า”

“ที่ผ่านมา 3 ครั้ง บริษัทออกหุ้นกู้เสนอขายรายย่อยมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีครั้งนี้มูลค่าออกหุ้นกู้เพียง 500 ล้านบาท และไม่ได้ทำอันดับความน่าเชื่อถือ จึงเป็นการเสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้นซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดในหนังสือชี้ชวน” นางสาวนริสรา ชัยวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. บลูเบลล์ กล่าว

“ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างการขออนุญาตและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลฯ กับสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดรับจองซื้อได้ในวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2565 นี้ นักลงทุนรายใหญ่ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดข้อมูลได้จากหน้า website ของสำนักงาน ก.ล.ต. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 3 แห่ง” นางสาวบุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด รองกรรมการผู้จัดการ บล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวปิดในตอนท้าย

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการใหม่ๆ ที่ประมูลมาได้หลายโครงการ ล่าสุดคือโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และโครงการก่อสร้างงานปรับปรุงคุณภาพดินบริเวณอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือหรือ backlog เกือบ 40,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้สะสมไปอีก 3-4 ปี ข้างหน้า

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp