ผ่าแผนควบรวม TRUE-DTAC เงื่อนไขที่ไม่ง่าย?

337

 

มิติหุ้น-ภายหลัง กสทช. มีมติอนุมัติการควบรวมระหว่าง TRUE-DTAC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.65) ดูเหมือนอะไรจะราบรื่น แต่ยังมีกระแสอื้ออึงหลายเรื่องไล่ตั้งแต่ข้อกังขาเรื่องประเด็นการผูกขาดตลาด รวมถึงรายละเอียดและอุปสรรคภายหลังการควบรวมแบบมีเงื่อนไขในครั้งนี้ ไล่ตั้งแต่ 1 ทั้ง TRUE และ DTAC จะต้องห้ามรวมแบรนด์กันภายใน 3 ปี ทำให้ยังไม่เห็นเรื่องการลดต้นทุนในทันทีเนื่องจากแต่ละแบรนด์จะต้องใช้เงินเพื่อดำเนินการด้านการตลาด

 

การลดค่าบริการเฉลี่ย 12% ยังไม่เคลียร์

2.เรื่องการลดค่าบริการเฉลี่ย 12 % และห้ามลดสถานีฐาน (Cell Site) ทำให้ประสิทธิภาพการควบรวมก็ยังไม่ส่งผลดีในทันที ส่วนเรื่องการลดค่าบริการก็ยังไม่แน่ชัดว่าลดลง 12% จาก ARPU หรือเพดานปัจจุบัน

 

ช่วง 1-2 ปีจากนี้คือช่วงที่อ่อนแอของ TRUE-DTAC

นอกจากนี้ในช่วง 1-2 ปี หลังจากนี้คือช่วงเวลาที่จะต้องปัดกวาดหลังบ้าน ปรับโครงสร้างธุรกิจเข้ามารวมกันระหว่าง 2 บริษัท ทำให้อาจจะเป็นที่อ่อนแอที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง AIS ที่ไม่มีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

กระทบกำไรหลังควบรวม

ซึ่งในประเด็นการห้ามลดสถานีฐาน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ยังแสดงความเห็นเรื่องนี้ว่าอาจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำไรของบริษัทใหม่ใน 3 ปีแรก นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการอนุญาตการรวมคลื่นความถี่ทำให้ยังไม่ส่งผลดีเท่านี้ควรภายหลังจากการควบรวมครึ่งนี้

 

เสี่ยงลูกค้าหาดหาย

ขณะที่ด้านนักวิเคราะห์อีกแห่ง จึงยังประเมินอีกว่า ผลการดำเนินงานของ AISในปี 66-67 น่าจะเติบโตแรง จากแผนการตลาดหากดูจากคู่แข่งที่อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างภายหลังควบรวมกัน ดังนั้นปีหน้า AIS จึงมีโอกาสเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ได้ จากกลุ่มลูกค้าที่เริ่มไม่มั่นใจจากการควบรวมกันระหว่าง TRUE-DTAC ก็อาจจะหันมาใช้บริการ AIS มากขึ้น

สิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงของการควบรวม TRUE-DTAC ที่ยังสร้างความคลุมเครือในทั้งกับ นักลงทุน นักวิเคราะห์และลูกค้า เชื่อว่า AIS น่าจะเป็นดาวเด่นในกลุ่มนี้ช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp