ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีบีไอ หรือ TPBI โดยนายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2561 เป็นต้นไป จะเริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ตามกลยุทธ์มุ่งทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภท General Packaging ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของผู้บริโภค เพื่อชดเชยการชะลอตัวคำสั่งซื้อถุงหูหิ้วแบบเดิม ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีกำไรขั้นต้นทั้งปีเติบโตดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10% จากเดิม 6.58% และมั่นใจว่ารายได้ในปี61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า10%
ส่วนความคืบหน้าโรงงาน Flexible Packagingแห่งใหม่ คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในเดือนก.ค.นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 900 ล้านบาท/ปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทวางบลงทุนไว้ราว 700 -800 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการลงทุนขยายกำลังการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ Flexible ซึ่งจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 150 ล้านเมตรต่อปี จากปัจจุบัน 100 ล้านเมตรต่อปี รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ Mutilayer เป็น 1.10 หมื่นตันต่อปี จากปัจจุบันที่ 9 พันตันต่อปี
ส่วนโครงการร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตถุงพลาสติกในประเทศเมียนมา ซึ่งบริษัทมีการถือหุ้นในสัดส่วน 65% MYANMAR STARGROUP ถือหุ้น25% และ PTTGC ถือหุ้น 10% ได้เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 350 ตัน/เดือน และบริษัทมีแผนจะขยายกำลังการผลิตให้เป็น 1,000 ตัน/เดือน ภายใน 2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทได้อยู่ระหว่างเจรจาและเข้าศึกษาเพื่อเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัททั้งในยุโรป-อาเซียน ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/61
