มิติหุ้น – บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (“AGE”) โชว์ฟอร์มเด่น อวดผลงาน 9 เดือนของปี 2565 ทำนิวไฮ ไม่หยุด กวาดรายได้รวม แตะ 13,600.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.4 %(YoY) ขณะที่กำไรสุทธิ 945.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227.7 %(YoY) ตอกย้ำกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนที่ดี รายได้ถ่านหิน – โลจิสติกส์โตกระฉูด ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ระบุโค้งสุดท้ายลุยธุรกิจถ่านหิน-โลจิสิกส์ ควบคู่กับการขยายไลน์ธุรกิจสู่เทรดดิ้งสินค้าเกษตร หนุนเป้ารายได้ทั้งปีทะยานแตะ 18,000 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งติดอันดับ หุ้นยั่งยืน THSI 5 ปีซ้อน พร้อมคว้ารางวัล CSR-DIW Continuous Award ประจำปี 2565 มาครองเป็นปีที่ 11 และติดโผดัชนี sSET ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (“AGE”) (Mr.PANOM KUANSATAPORN) THE CHAIRMAN OF EXECUTIVE COMMITTEE : ASIA GREEN ENERGY PUBLIC COMPANY LIMITED ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี2565 สามารถทุบสถิติออลไทม์ไฮ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 13,600.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.4 %(YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 13,123.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45 % (YoY) และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ รายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตร ที่ 476.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 % (YoY) ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ ในงวด 9 เดือน แตะระดับ 945.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 227.7 % ที่มีกำไรสุทธิ 288.5 ล้านบาท (YoY) โดยมีปริมาณยอดขายถ่านหินรวม ณ งวด 9 เดือนแรกที่ 3.06 ล้านตัน
ส่วนงวดไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 5,332.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.2% (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 5,147.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50 % (YoY) และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ รายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตร ที่ 185.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.2 % (YoY) ส่งผลให้กำไรสุทธิ แตะระดับที่ 316.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 89.5 % ที่มีกำไรสุทธิ 167.2 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับราคาขายถ่านหินเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มราคาถ่านหินในตลาดโลก ทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาส่วนต่างราคาขาย และต้นทุนของราคาถ่านหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งเกี่ยวกับสินค้าประเภทปูนซีเมนต์ ทราย แก้ว และกากอุตสาหกรรม ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ยังคง เป้าหมายรายได้ปี 2565 มีแนวโน้มแตะระดับ 18,000 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณยอดขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านตัน
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี “AGE” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 ว่า บริษัทฯเดินหน้าขยายธุรกิจการจำหน่ายถ่านหิน ควบคู่กับการให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร โดยบริษัทฯได้เตรียมขยายการลงทุนเพิ่ม อาทิ รถบรรทุกเพิ่ม 20 คัน มูลค่า 80 ล้านบาท ลงทุนโกดังเก็บสินค้ามูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนในระบบบริหารจัดการเพิ่ม IT มูลค่า10 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ในระยะยาว
นอกจากนี้ AGE มีแผนขยายการลงทุนไปยังธุรกิจ ‘ลีสซิ่ง’ เพื่อให้บริการด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกโดยในเบื้องต้น จะเป็นการให้บริการกับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัทฯ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของรถบรรทุกเองได้ โดยตั้งเป้าเฟสแรกอยู่ที่ 7 พ่วง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้ และมองว่าในระยะยาวยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ผ่านการร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร ที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้อีกด้วย
“ทั้งนี้ จากภาพรวมธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ทริสเรทติ้ง ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กร AGE ที่ระดับ “BB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่ยาวนาน ในธุรกิจค้าถ่านหินในประเทศไทย ตลอดจนความได้เปรียบในการแข่งขันจากการเป็นเจ้าของ facility ที่ใช้ในการดำเนินการ และความสามารถในการบริหารจัดการงานด้านโลจิสติกส์ ของ AGE ได้เป็นอย่างดี”
และล่าสุด บริษัทฯได้รับการจัดอันดับให้เป็นหุ้นยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (Thailand Sustainability Investment 2022 : THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สอดรับกับการยึดมั่นตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ในโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน แสดงถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืน (CSR-DIW to achieve SDGs) ประจำปี พ.ศ. 2565 จัดโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ร่วมดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมดูแลชุมชนและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในฐานะสมาชิกของชุมชน ตลอดจนการปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และยังติดโผเข้าคัดเลือกคำนวณดัชนี sSET ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมทั้งสะท้อนการเติบโต ที่แข็งแกร่งของผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
@mitihoonwealth