มิติหุ้น – “บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO” ตอกย้ำ!! ภาพรวมธุรกิจประกาศผลงาน 9 เดือน ทำกำไร 180.25 ล้านบาท โตกว่า 5.24% กวาดรายได้รวม 700.71 ลบ. เพิ่มขึ้น 38.29 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม ระบุธุรกิจปล่อยสินเชื่อมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดบอร์ดใจดี ชงแจกปันผลหุ้นในอัตรา 40 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0013890 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 ม.ค. 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 26 ม.ค.66 ด้านแม่ทัพใหญ่ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” เชื่อรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ตามแผนแน่นอน เผยปัจจุบันมีงบเหลืออยู่ประมาณ 2,000 ลบ. ลุยซื้อหนี้ใหม่เติมพอร์ต ชี้ Q4 ไฮซีซั่นของธุรกิจ เห็นสัญญาณสถาบันการเงินเร่งขาย NPL คาดมีการประมูลขายหนี้ทยอยออกมา ล่าสุดพอร์ตมูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 77,634 ลบ.
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO
ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ( 1 มกราคม – 30 กันยายน) มีรายได้รวมอยู่ที่ 700.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.01 ล้านบาท หรือ 38.29% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่รายได้รวมอยู่ที่ 506.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 180.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.97 ล้านบาท หรือ 5.24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ จำนวน 157.10 ล้านบาท และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมจำนวน 43.14 ล้านบาท
โดยงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 525.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% ของรายได้ โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 128.31 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นส่วนใหญ่เกิดจากการที่บริษัทฯ มีรายได้จากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 253.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.93% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 173.96 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.74 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.47 ล้านบาท โดยสาเหตุการลดลงของกำไรส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายที่ลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรขั้นต้น 185.37 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 50.22 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันที่ 10 พ.ย. 65 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากกำไรสะสม เป็นหุ้นในอัตรา 40 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0013890 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 ม.ค.66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 ม.ค.66 ทั้งนี้ สิทธิในการรับปันผลยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น.ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting)
นายสุขสันต์ กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 เชื่อว่าทิศทางธุรกิจจะมีการเติบโตที่ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยในไตรมาส 4 ทางสถาบันการเงินจะเร่งทยอยขาย NPL ออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นก็เป็นโอกาสของ CHAYO ที่จะได้หนี้ใหม่เข้ามาเติมพอร์ตในช่วงที่เหลือของปีนี้ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตมูลหนี้คงค้างอยู่ที่ประมาณ 77,634 ล้านบาท โดยยังคงเป้าสิ้นปีแตะ 80,000 – 90,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานภาพรวมในปี 2565 จะทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 25% อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีเงินลงทุนคงเหลืออยู่ในมือกว่า 2,000 ล้านบาท (รวม Chayo JV) รองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่เข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่ม อย่างไรก็ดี ตอนนี้บริษัทมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจากับทางสถาบันการเงินอยู่ประมาณ 3-4 ดีล มีมูลหนี้ตั้งแต่หลักร้อยล้านบาทไปจนถึงหลักพันล้านบาท คาดว่าจะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนอย่างน้อย 1-2 ดีล ในเร็วๆนี้ มีขนาดมูลหนี้หลักพันล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อยังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่แล้วกว่า 600 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มอีก 100-300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปีนี้จะทำได้ประมาณ 700 – 900 ล้านบาท โดยมองว่าด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ที่กำลังฟื้นตัวเป็นช่วงที่ลูกค้ากำลังต้องการทุนไปหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ด้านธุรกิจติดตามและเร่งรัดหนี้ ปัจจุบันเริ่มกลับมามีการเติบโตที่ดี และสามารถเซ็นสัญญาร่วมกับลูกค้าเพิ่มต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp