มิติหุ้น-SAWAD โดยบล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ระบุว่าจากที่ SAWAD มีความเสี่ยงมากกว่าจากการขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และการกลับรายการสำรอง เรามองว่า NPL coverage ต่ำเกินไป โดย SAWAD มีแนวโน้มซื้อขายด้วยมูลค่าส่วนลดเมื่อเทียบกับคู่แข่งเนื่องจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่สูงกว่า NPL ที่ต่ำที่สุดและ ROE ที่ต่ำกว่า (ดูภาพที่ 3)
ฝ่ายวิจัยฯลดคาดการณ์กำไรปี 2565-66 เพื่อสะท้อนต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น เลื่อนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 66 และลดคำแนะนำเป็น “ขาย” จาก “ซื้อ” โดยราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 40 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 2.0 เท่า, P/E 12 เท่า) จาก 52 บาท เราชอบ ASK (CP THB34.75, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 48 บาท) และ TIDLOR (CP THB26.5, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 32 บาท) มากกว่า เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์และแนวโน้มกำไรเติบโตดีกว่า
SAWAD มั่นใจว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์โตแกร่ง
ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารประเมินสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 2.4 เท่าจากปีก่อนเป็น 14 ล้านบาท หรือ 29% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/65 จาก 12% ในไตรมาส 1/65 โดยบริษัทได้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ 2.5 พัน ลบ.ในไตรมาส 1/65 และ 4-5 พัน ลบ.ในไตรมาส 2-3/65
โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพยังต่ำที่ 1.5% จากสินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่ง บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อรถจักรยานยนต์จะเติบโตอีก 40% ในปี 66 และเชื่อว่าการตั้งสำรองหนี้สูญปัจจุบันที่ 51% ของ NPL และ 1.4% ของสินเชื่อรวมอยู่ในระดับที่รัดกุมดีแล้ว เนื่องจากมีกระบวนการอนุมัติสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่ดี
แต่ฝ่ายวิจัยฯมองว่างบดุลยังไม่พร้อม จึงปรับลดคาดการณ์กำไรปี 66-67
ในบรรดาหุ้นที่เราวิเคราะห์ SAWAD ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ 23% เนื่องจากคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดและมีความเสี่ยงมากที่สุดในสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสินเชื่อต่ำในระยะแรก แต่เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเมื่อพอร์ตสินเชื่อครบกำหนด และสินเชื่อเช่าซื้อบางส่วนแปรสภาพเป็น NPL
ทั้งนี้ ต้นทุนสินเชื่อของอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ ซึ่งเรามองว่างบดุลของ SAWAD ยังไม่พร้อมรับมือ เนื่องจากมีปริมาณการตั้งสำรองที่น้อยและสัดส่วนสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูงที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับลดคาดการณ์กำไรปี 65-66 ลง 5-9% เพื่อสะท้อน opex และต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น
PPoP พลาดเป้า แต่กำไรตามคาดจากการกลับรายการสำรอง
กำไรไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 1.19 พัน ลบ.เติบโต 7% YoY และ 14% QoQ จากการกลับรายการสำรอง สินเชื่อเพิ่มขึ้น 17% QoQ และ 42% YoY จากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่แข็งแกร่ง NIM เพิ่มขึ้น 63bp QoQ จากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้น ขณะที่ Non-nii เติบโต 20% YoY จากกำไร 188 ลบ.จากการจัดประเภทการลงทุนใหม่ในศรีสวัสดิ์ เวียดนาม
ส่วน OPEX เพิ่มขึ้น 90% YoY จากค่าคอมมิชชันและขาดทุนจากการด้อยค่า 223 ลบ.จากการคืนใบอนุญาตทางการเงิน ทำให้ PPoP ต่ำกว่าเราคาด 13% อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 18bp QoQ เป็น 2.65% จากสินเชื่อที่สูงขึ้น ขณะที่ NPL coverage ลดลงอีกเป็น 51% เนื่องจาก SAWAD กลับรายการตั้งสำรอง 121 ลบ.ในไตรมาส 3/65
@mitihoonwealth