มิติหุ้น – บล.กสิกรไทย ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อคาดผลกระทบจากเพดานอัตราดอกเบี้ยใหม่ต่อผู้ประกอบการให้สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์เป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่และมือสองจะได้รับผลกระทบจำกัด
รถยนต์ EV จะใช้เวลาสักพักกว่าจะส่งผลกระทบต่อราคารถมือสอง เนื่องจากผู้ปล่อยสินเชื่อ HP ยังคงระมัดระวังต่อมูลค่าซากและต้องการเงินดาวน์สูง
ขณะที่ จากข้อมูล สอก. กรมการขนส่งทางบก และประมาณการของ KResearch ยอดขายรถยนต์ EV จะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คัน ในปี 66 จาก 10,000 คัน ในปี 65 อดีตประธาน THPA ระบุว่า ลูกค้ากว่า 40% มีเป้าหมายที่จะ ชื่อรถยนต์ EV ขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่อ HP มีความกังวลเรื่องราคาขาย ต่อและกำหนดเงินดาวน์ที่สูงประมาณ 25%
เราเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รถยนต์ EV จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคา รถยนต์มือสองและลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ต่อยอดหนี้ (LGD) จากสินเชื่อ HP แต่ในระยะยาว ธุรกิจสินเชื่อ HP รถยนต์ใหม่อาจต้องเผชิญกับ LGD ที่สูงขึ้นและส่งผลให้ค่าใช้จ่นสำรองหนี้สูญ (credit cost) สูงขึ้น โดย TTB TISCO KKP และผู้ประกอบการให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ต้องติดตาม ผลกระทบอย่างใกล้ชิด
ด้านฝ่ายวิจัยคาดว่ากลุ่มธนาคารจะได้รับผลกระทบที่จำกัดจากเพดานอัตราดอกเบี้ยใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่เสนอให้กับลูกค้าอยู่ภายใต้เพดานอัตราดอกเบี้ยใหม่แล้ว ขณะที่กลุ่มการเงินมีความเสี่ยงมากกว่าสำหรับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนสินเชื่อ HP รถจักรยานยนต์มาก ได้แก่ SAWAD NCAP MTC และ MICRO
โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคาร (หุ้นเด่น คือ KTBเป้า 20 บ. และ TTBเป้า 1.59 บ.)
ส่วนมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มการเงิน (หุ้นเด่น คือ TIDLORเป้าท33 บ., BAMเป้า 21 บ. และ THANIเป้า 5.25 บ.)
@mitihoonwealth