GLORY ปิดดีลส่งท้ายปี ลุยซื้อหุ้น “PIXELA” สตาร์ทอัพ visual Influencer 28% – จ่อรับรู้ส่วนแบ่งกำไรทันที

172

มิติหุ้น บมจ.รุ่งเรืองตลอดไป “GLORY” ส่งท้ายปี ปิดดีลซื้อหุ้น 28% ในบริษัท พิกเซล่า ออฟฟิเชียล(“PIXELA”) ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณา สร้างสรรค์และพัฒนา Virtual Influencer ประกาศเป็นการ Strategic Partner ที่ลงตัว พร้อมช่วยเสริมทัพให้บริษัท มีศักยภาพความแข็งแกร่งในการขยายช่องทางเครื่องมือการตลาด (Marketing Tools)เพิ่มมากขึ้น พร้อมระบุจ่อรับรู้กำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นได้ทันที ส่งซิกปี2566 ธุรกิจส่อแววรุ่งหลังจากแผนการต่อยอดธุรกิจไปได้สวย เล็ง ลงทุนกลุ่ม Startup  2-3 ดีล ในกลุ่มธุรกิจ Media (สื่อ) กลุ่มธุรกิจ Tech (เทคโนโลยี) กลุ่มธุรกิจ Healthcare และ Lifestyle เพิ่มสร้าง New S-curve ส่งผลปีหน้าโต 20-50%

นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ “GLORY” ธุรกิจสตาร์ทอัพประเภทแพลตฟอร์ม ด้าน วรรณกรรมออนไลน์ (Startup Platform Online) ประกอบด้วย นิยาย การ์ตูน และหนังสือ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นของ บริษัท พิกเซล่า ออฟฟิเชียล จำกัด (“PIXELA”) จากบริษัท ออฟทิ ไมซ์ คอนสตรัคชั่น เทคโนโลยี จำกัด (“OCT”)  ทั้งนี้ “GLORY” จะถือหุ้น “PIXELA” รวมทั้งสิ้น 21,000 หุ้น รวมคิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ “PIXELA” ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุน จำนวน 5.25 ล้านบาท โดย “GLORY” จะซื้อหุ้นของ PIXELA จาก OCT จำนวน 15,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ PIXELA เป็นเงินจำนวน 3,250,000 บาท และเมื่อนับรวมกับหุ้นของ PIXELA ที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้เข้าซื้อจากบริษัท โพลีกอน ออฟฟิเชียล จำกัด จำนวน 6,000 หุ้น จะส่งผลให้ GLORY ถือหุ้นของ PIXELA รวมทั้งสิ้น 21,000 หุ้น โดย GLORY จะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งทางกำไรจากการเข้าลงทุนในบริษัทดังกล่าวได้ทันที ตามสัดส่วนการถือหุ้น 28%

การเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการต่อยอดทางธุรกิจระหว่าง GLORY และ PIXELA ในรูปแบบStrategic Partner ได้อย่างลงตัว เนื่องจาก PIXELA ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณา สร้างสรรค์และพัฒนา Virtual Influencer เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และเป็นโอกาสการต่อยอดทางธุรกิจให้มีความหลากหลาย

สำหรับ “PIXELA” เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์ visual Influencer หรือ V-Tuber ที่มีผู้ติดตามรวมสูงถึงหลักหลายแสนราย โดยใช้ระยะเวลาเปิดตัวเพียง 1-2 ปีเท่านั้น ดังนั้นจึงมองว่ายังมีดีมานด์การเติบโตที่สูงขึ้น  โดย V-Tuber จะมีรูปแบบคล้ายกับ YouTuber ทั้งนี้ PIXELA ได้นำเทรนด์ของการใช้เครื่องมือการตลาด (marketing tool) ยุคใหม่ ในรูปแบบการ์ตูนอนิเมชั่น ที่แสดงท่าทางตามการจับการเคลื่อนไหวของตัวคน ทั้งภาพและเสียงด้วยกล้องและ AI ซึ่งเป็นเทรนด์ยุคใหม่ในขณะนี้ ที่มีฐานผู้เข้าชมและติดตามเป็นแฟนคลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

และด้วยกลุ่มลูกค้าของGLORY และ PIXELA เป็นกลุ่มใกล้เคียงกัน จึงมองว่าเป็นการช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าซึ่งกันและกันได้ ซึ่งถือเป็นการ Strategic Partner จะช่วยเสริมทัพให้ GLORY มีศักยภาพความแข็งแกร่ง เป็น win win ทั้ง 2 บริษัท

“PIXELA  มีความโดดเด่นในการใช้ เครื่องมือการตลาด (Marketing Tools) เพื่อโปรโมทสินค้า                  ด้วย content การไทน์อิน วิดีโอต่างๆ คล้ายๆ Youtuber ลักษณะของ PIXELA อาจจะคล้าย youtuber ไอดอล เพราะตัว service ต่างๆ บางทีก็เป็นการไลฟ์สด พูดคุยกับคนต่างๆ อัดคลิป ถ่ายวิดีโอ การแสดง ร้องเพลง มีฐานสมาชิก โดยเน้นเป็นการสนับสนุนตัวละครที่ชอบ  นอกจากนี้ ยังผลิต visual Influencer เป็นมาสคอตของบริษัทเองที่เป็นตัวละครน่ารักๆ โดยกลุ่มเป้าหมายของ PIXELA จะเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใกล้เคียงกับที่ platform Glory ที่มีอยู่ในช่วงอายุ 18-44 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อทางอินเตอร์เน็ต โดยส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าเป็นคนไทย และยอด Follow น้องๆ Gen1 ที่วาด animation โดยคนไทย มีตั้งแต่ยอด 60,000-120,000 Follow ขึ้นไป และ Gen 2 ที่เพิ่งเปิดตัวช่วงต้นปี 2565 ซึ่งวาดโดยคนญี่ปุ่น โดยช่องของน้อง Gen 2 บางคนก็มียอด subscribe ที่ 40,000 – 80,000 sub แล้ว ส่วน Gen 3 แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน ก็มียอด subscribe ตามกันมาติดๆ ที่ 17,000 – 40,000 sub”

จากแผนการขยายธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Startup-SME รวมถึงแผนเปิดตัวเกมออนไลน์ในปี2566 “MMORPG” (Massively Multiplayer Online Role Playing Game) หรือเกม RPG รูปแบบออนไลน์ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก ผ่านช่องทาง Mobile Application ซึ่งคาดว่าจะมียอดดาวน์โหลดใน            ปีแรกไม่ต่ำกว่า 1 แสนดาวน์โหลด โดยคาดว่ามีรายได้เข้ามาประมาณ 10-20 ล้านบาท ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับฐานลูกค้าของ PIXELA ที่บริษัทเข้าไปลงทุนได้เพิ่มขึ้น ประกอบการเข้าลงทุนในบริษัท INFINITY และ DD II ก่อนหน้าที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้าเต็มปี รวมถึงแผนการต่อยอดธุรกิจ Core Business และการศึกษาลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Startup-SME ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี2566 ประมาณ 2-3 ดีล ในกลุ่มธุรกิจ Media (สื่อ) กลุ่มธุรกิจ Tech (เทคโนโลยี) กลุ่มธุรกิจ Healthcare และ Lifestyle ซึ่งจะสร้าง New S-curve ใหม่ ส่งผลให้ในปี2566 บริษัทฯตั้งเป้าอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 20-50% อย่างแน่นอน

“บริษัทตั้งเป้าหมายในช่วงระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565 -2567) เข้าลงทุนในกลุ่ม Startup เพิ่มประมาณ 8-12 ราย ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 100-200 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินลงทุนจะนำมาจากกระแสเงินสด ที่มีอยู่ปัจจุบัน 100 ล้านบาท รวมถึงการเม็ดเงินจากการใช้สิทธิในการแปลงสภาพจากวอร์แรนต์ (GLORY-W1) ดังนั้นจึงอยากจะสร้างความเชื่อมั่นว่าแผนการลงทุนของบริษัทฯจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp