มิติหุ้น – นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กล่าวว่า ไตรมาส 4/65 เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก
1%เหลือ 0.01% รวมถึงมาตรการผ่อนคลายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่จะสิ้นสุดภายใน 31 ธ.ค. 65 นี้ บริษัทจึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อให้ผู้บริโภคทุกวัยสามารถเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยทำเลศักยภาพได้ง่ายขึ้น ควบคู่ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตามแนวคิด “ORIGIN MULTIVERSE” หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล ล่าสุด บริษัทได้ยกทัพบ้านและคอนโดมิเนียมร่วมจัดงานมหกรรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี
ภายใต้ชื่อ “Origin Final Sale” ในวันที่ 15-18 ธ.ค. 65 นี้ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1ศูนย์การค้าสยามพารากอน “ปกติแล้วช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ปลายปีนี้น่าจะเป็นปีที่คึกคักมากที่สุดในรอบหลายปี ทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ และเป็นช่วงใกล้สิ้นสุดของมาตรการรัฐต่างๆ เราจึงจัดอีเวนท์ครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี รวมโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมมากกว่า 80 โครงการ เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เลือกช้อปโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ราคาโดนใจ แบบผ่อนได้ 0% กู้เต็ม 100% พร้อมโปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็มทุกโครงการไว้ภายในงานเดียวเป็นของขวัญส่งท้ายปี 65” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับงานมหกรรม “Origin Final Sale” เป็นการนำโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม ทั้งพร้อมอยู่และพรีเซล จำนวนมากกว่า 80 โครงการ จากหลากหลายแบรนด์คุณภาพ ครอบคลุมทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และอีอีซี อาทิ เบลกราเวีย (Belgravia), แกรนด์บริทาเนีย (Grand Britania), ไบรตัน (Brighton), แฮมป์ตัน (Hampton), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), บริกซ์ตัน (Brixton) ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท มาร่วมออกบูธและจัดโปรโมชั่นผ่อนดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 2 ปี และกู้ได้เต็ม 100%* พร้อมโปรโมชั่นจัดหนักจากแต่ละโครงการ เช่น
ลดสูงสุด 1,000,000 บาท* นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองโครงการพร้อมอยู่ ลุ้นรางวัล รถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 1,099,900 บาท และ โครงการพรีเซล ลุ้นรับรางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวยุโรป จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง โดยโครงการพร้อมอยู่จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ และโครงการพรีเซล จะต้องวางเงินทำสัญญา ภายใน 30 ธันวาคม 2565 นี้เท่านั้น เงื่อนไขเป็นไปตามแต่ละโครงการกำหนด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 เครือออริจิ้นสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยได้ทั้งหมด 29,398 ล้านบาท หรือราว 84% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 35,000 ล้านบาท บริษัทเชื่อมั่นว่าด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพและการออกแบบฟังก์ชันโครงการที่อยู่อาศัยเครือออริจิ้นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทุก
เจเนอเรชัน ร่วมกับโปรโมชันที่จัดเต็มกว่าทุกครั้ง จะทำให้มหกรรมใหญ่ Origin Final Sale ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยสร้างยอดขายในไตรมาส 4/65 ส่งผลให้ยอดขายรวมทั้งปีของออริจิ้นสามารถสร้างสถิติ All Time High ได้อีกครั้งตามเป้าหมายที่วางไว้ ตอกย้ำฐานะผู้นำในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ผู้สนใจร่วมงานมหกรรม “Origin Final Sale” สามารถเข้าร่วมงานได้ในวันที่ 15-18 ธ.ค. 65 นี้ ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://bit.ly/3XYpyQr หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 020 300 000
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 112 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 172,000ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp