ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของเดือน เม.ย.2561 โดยการส่งออกมีมูลค่า 18,946 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.3% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,229 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.4% ส่งผลให้การค้าขาดดุล 1,283 ล้านเหรียญสหรัฐ
รวม 4 เดือนแรกของปี 2561 การส่งออกมีมูลค่า 81,775 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.5% การนำเข้ามีมูลค่า 81,102 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.2% และการค้าเกินดุล 673 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ หากคิดในรูปของเงินบาท เดือน เม.ย.2561 การส่งออกมีมูลค่า 586,314 ล้านบาท ขยายตัว
0.8% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 634,973 ล้านบาท ขยายตัว 8.2% ส่งผลให้การค้าขาดดุล 48,659 ล้านบาท รวม 4 เดือนแรกของปี 2561 การส่งออกมีมูลค่า 2,579,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% การนำเข้ามีมูลค่า 2,592,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% และการค้าขาดดุล 12,569 ล้านบาท
โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร กลับมาขยายตัว 9.8% โดย
สินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวดี ได้แก่ ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป ขยายตัว 50.7% ข้าว ขยายตัว 19.1% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัว 25.8% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขยายตัว 12.4% โดยภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2561 กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 5.3%
ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูงเป็นเดือนที่ 14 ที่ 12.2% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 17.8% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 23.9% เม็ดพลาสติก ขยายตัว 29.0% น้ำมันสำเร็จรูป ขยายตัว 39.0% ภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2561 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 11.9%
สำหรับแนวโน้มการส่งออกปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในเกณฑ์ดี และมีการกระจายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าจะช่วยสนับสนุนการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี และส่งผลดีต่อรายได้จากการส่งออกในรูปเงินบาทอีกทางหนึ่ง
www.mitihoon.com