LPN ลั่นปี 66 รุกตลาดบ้านพรีเมียมชิงเค้กกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ล่าสุด Sold Out โครงการ BAAN 365 RAMA 3 ฟันยอดขายและโอน 100% กว่า 3,200 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดอีก 5 ทำเล

171

มิติหุ้น – บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพมากว่า 33 ปี ล่าสุด ปิดการขายโครงการ BAAN 365 RAMA 3 ไปอย่างสวยงามก่อนสิ้นปี กวาดยอดขายและโอน 100% ปิดโครงการมูลค่ากว่า 3,200ล้านบาท โดยในปี 2566 มีแผน เดินหน้าเต็มกำลังรุกตลาดบ้านพรีเมียมระดับราคา 1040 ล้านบาท ภายใต้ New Master Brand 168

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า “แนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านขึ้นไปในครึ่งปีหลังและปีหน้า คาดว่าจะมีทิศทางที่เป็นบวก สืบเนื่องจากกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่เน้นอยู่อาศัยจริง ผู้ประกอบการยังคงเน้นจับตลาดบ้านกลุ่มนี้และยังเปิดตัวโครงการใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะยังมั่นใจในดีมานด์ที่เติบโตขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านระดับพรีเมี่ยมยังไปต่อได้ คือสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย และให้ความสะดวกในการดำเนินชิวิต ซึ่งจะเห็นว่ากลุ่มบ้านในระดับราคา 10 ล้านขึ้นไปได้ขยายตัวออกไปในพื้นที่ส่วนต่อขยายของกรุงเทพฯ (Extension Business District: EBD) และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมในการอยู่อาศัยและการเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีปัจจัยสำคัญของการเลือกซื้อบ้านคือ ทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยระดับราคาบ้านที่มีความต้องการสูงที่สุด คือบ้านที่มีระดับราคาระหว่าง   10 -20 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว เช่น กลุ่มเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนไทยที่อยู่ต่างประเทศซื้อเก็บเพื่อใช้พักผ่อนในช่วงมาเมืองไทย

จากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้โครงการ BAAN 365 RAMA 3 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านและทาวน์โฮมระดับพรีเมียม เรือธงใหม่จาก LPN เจาะกลุ่มเป้าหมายในระดับ B+ ขึ้นไป ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าย่านพระราม 3 ซึ่งเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และยังคงมีพื้นที่สีเขียว ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตที่มีสุขอนามัยที่ดี(Well-being) ผสานความโดดเด่นด้านการออกแบบ    ที่คำนึงถึงฟังก์ชันในการใช้งาน สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น ให้สามารถมีทั้งพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ความใส่ใจในคุณภาพงานก่อสร้างที่แทรกอยู่ในทุกกระบวนการในราคาที่คุ้มค่าสมเหตุผล และความเชื่อมั่นในชื่อเสียงและการบริการหลังการขายของ LPN  และจากการสำรวจของ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) พบว่ามีโครงการบ้านพักอาศัยในทำเลนี้ 4 โครงการ มีจำนวนทั้งสิ้น 256 ยูนิต มีอัตรการขายไปแล้ว 57% มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 109 หน่วย โดยบ้านพักอาศัยที่ขายดีในทำเลนี้ อยู่ที่ระดับราคา 17-25 ล้านบาท สำหรับทาวน์เฮ้าส์ขนาด 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น และบ้านเดี่ยวที่ระดับราคามากกว่า 50 ล้านบาท

โดยในปี 2566  LPN ยังมีแผนเปิดโครงการแนวราบระดับพรีเมียมอีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ 168 ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาโครงการที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ท่ามกลางสังคมคุณภาพ น่าอยู่ ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว ตามมาตรฐานและคุณค่าของ LPN

“ถึงแม้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่เรามั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ได้ ภายใต้ความแข็งแกร่งทางการเงิน และความเชื่อมั่นของลูกค้าในเรื่องของแบรนด์ และคุณภาพมาตรฐาน ทั้งสินค้าและการบริการทั้งก่อน-หลังการขายจาก LPN” นายโอภาส กล่าวเพิ่มเติม

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp