ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาด
ขณะที่ตลาดจับตาผลกระทบจากพายุหิมะ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3% หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ธ.ค. ปรับลดลงกว่า 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 418.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งลงลดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.5 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงกว่า 0.242 ล้านบาร์เรล
+ อุปทานน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มตึงตัว หลังจากการประชุมในวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มเปกพลัสยังคงยึดตามแผนการผลิตเดิมที่มีการลดกำลังการผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในการสัมภาษณ์ในวันอังคารที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียย้ำชัดว่าการปรับลดดังกล่าว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วในการสนับสนุนเสถียรภาพของตลาด
– ตลาดยังคงกังวลความต้องการเชื้อเพลิงในเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวสหรัฐฯ อาจปรับลดลง หลังมีการพยากรณ์ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศกำลังจะเผชิญกับพายุหิมะและสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดย National Weather Service ของสหรัฐฯ พยากรณ์ว่าสภาพอากาศจะเริ่มรุนแรงขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยจะเคลื่อนตัวจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และตอนกลางของประเทศไปยังส่วนอื่นๆ
ราคาน้ำมันเบนซิน – ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินเดียปรับสูงขึ้นก่อนเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ดี ราคายังได้รับแรงกดดันจาก ปริมาณการนำเข้าในออสเตรเลียที่ปรับตัวลดลงจากน้ำท่วม
ราคาน้ำมันดีเซล – ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลจากภูมิภาคไปยังยุโรปมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการคว่ำบาตรของผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp