ในที่สุด STARK ก็ฝ่าความมืด ประกาศศึกษาแผนจะซื้อหุ้นคืนเพื่อเสนอคณะกรรมการต่อไป คำถามคือ ทำได้หรือเปล่า และจะทำอย่างไร
เกณฑ์ซื้อหุ้นคืน
เกณฑ์การซื้อหุ้นคืนนั้น งบการเงินเฉพาะบริษัทจะต้องไม่มีขาดทุนสะสม ซึ่งล่าสุดยังมีขาดทุนสะสม 53 ล้านบาท นอกจากนี้จะต้องมีสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอ ส่วนราคาซื้อคืนก็มีข้อกำหนดชัด คือไม่เกิน 115% ของราคาหุ้นกรณีเพื่อบริหารการเงิน ดังนั้นภายในระยะเวลา 1-3 เดือนนี้ยังไม่น่าจะทำได้ทัน เพราะต้องรอประกาศงบ Q4 ซึ่งมีโอกาสกำไร 900 ล้านบาท จะทำให้มีกำไรสะสมกลายเป็น 847 ล้านบาท (โดยประมาณ) หรือประกาศเร่งล้างขาดทุนสะสมโดยนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้างออกไป 53 ล้านบาท แต่ก็ยังคงต้องขออนุมัติในการล้างขาดทุนสะสมก่อนอย่างน้อยก็ต้องหลังงบ Q4 อยู่ดี
ล้างขาดทุนสะสมทำอย่างไร
STARK เคยประกาศเพิ่มทุน PP จำนวน 1,500 ล้านหุ้นที่ราคา 3.72 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อ LEONI ก่อนที่จะล้มแผนดังกล่าว การเพิ่มทุนนี้ทำให้ได้เงินสด 5.5 พันล้านบาท ถือเป็นสภาพคล่องจำนวนมาก และเกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นราว 4,080 ล้านบาท ตรงนี้แหละนำมาล้างขาดทุนสะสมได้หลังจากประกาศงบสิ้นปี 65 ซึ่งก็ประมาณกลางกุมภาพันธ์ 66
ถ้าซื้อหุ้นคืน จะใช้เงินเท่าไร
หาก STARK จะซื้อหุ้นคืนทำได้อยู่แล้ว เพราะมีเงินสดกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งหากตั้งสมมุติฐานว่าใช้เงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนหากอิงราคาที่ 2.34 บาท จะซื้อคืนจำนวน 427 ล้านหุ้น แต่เกณฑ์เปิดให้ซื้อได้ในราคาไม่เกิน 115% ดังนั้นระดับ STARK ที่ชอบคิดแผนการซับซ้อน อาจประกาศซื้อหุ้นคืนที่ราคาสูงๆ ได้ เช่น 4 บาทก็ไม่ผิดกฏ เพราะเคยมีคนประกาศซื้อหุ้นคืนที่ราคาสูงกว่ากระดานมาแล้วหลายราย โดยอาจกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าซื้อจากผู้ถือหุ้นด้วยวิธีการ Random ไม่เกินรายละ 2% อะไรทำนองนี้
หากประกาศซื้อหุ้นคืนที่ราคาสูงกว่ากระดานก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้รายย่อยอยากขายหุ้นตัวเองที่ราคาสูงก็จะเข้าไล่ราคากัน แต่ต้องดูเงื่อนไขให้ดีนะว่าเขารับซื้อคืนกี่เปอร์เซ็นต์ ไม่งั้นอาจเข้าใจไม่ตรงกันได้
@mitihoonwealth