มิติหุ้น – บล.ไอร่า ระบุว่า โรงไฟฟ้าของ GPSC แบ่งออกเป็น IPP 34%, SPP&VSPP63% จึงได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานทั้งก๊าซและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมตั้งแต่ช่วง2Q/65-4Q/65
อย่างไรก็ตามการที่ กกพ. ขึ้นค่า ft รอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2566 ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านเรือนอยู่ที่ 4.72บาทต่อหน่วย ส่วนค่าไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 5.33 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ GPSC ในช่วง 1Q/66 จะฟื้นตัวโดดเด่น และคาดในช่วงถัดไปการปรับค่า ft ของ กกพ. จะสอดคล้องกับต้นทุนพลังงานมากขึ้น หลัง กฟผ.ต้องแบกภาระไว้แล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ GPSC อยู่ระหว่างเข้าร่วมการคัดเลือกในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ คาด GPSC มีความพร้อมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์
โครงการที่น่าจับตาของ GPSC คือ โรงงานแบตเตอรี่ โดยโรงงานผลิต Energy Storage Unit ที่ระยองมีกำลังผลิตเฟสแรก 30 MWh นอกจากนี้ยังเตรียมขยาย Value chain ไปยัง application ต่างๆ เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน การใช้แบตเตอรี่กับรถยนต์ต่างๆ เช่น EV Car, EV Bus, EV charger และ Battery Swapping ผ่านความร่วมมือกับ PTTและพันธมิตรอีกหลายราย
คาดผลการดำเนินงานมั่นคง และคาดหวังต้นทุนพลังงานในช่วงถัดไปจะอ่อนตัวลงได้บ้าง หากสถานการณ์สงครามรัสเซีย และการคว่ำบาตรรัสเซียผ่อนคลายลงในช่วง 2H/66
ประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 อยู่ที่ 85.00 บาท (DCF)ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon