ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดแผนรุกธุรกิจกระตุ้นการท่องเที่ยว เดินหน้าขยายพอร์ตโรงแรม NH และ NH Collection ทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง รับดีมานด์ตลาดโต

93

มิติหุ้น –  ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม ทั้งในรูปแบบเป็นเจ้าของเอง บริหารจัดการ และร่วมลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือกว่า 530 แห่ง ใน 56 ประเทศ เร่งเครื่องขยายพอร์ตธุรกิจแบรนด์โรงแรมภายใต้ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NH Hotel Group) ด้วยเป้าหมายขยายการเติบโตทั่วทั้งเอเชียและตะวันออกกลางรวม 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน การ์ตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเตรียมเปิดโรงแรมใหม่ 10 แห่งในปี 2566 และปี 2567 รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดย 6 โรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์เอ็นเอช คอลเลคชั่น และ 2 โรงแรมภายใต้แบรนด์เอ็นเอช มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 ในขณะที่ปี 2567 จะมีแบรนด์โรงแรมเอ็นเอช และโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น เปิดให้บริการอีกแบรนด์ละ 1 แห่ง ซึ่งจะส่งให้กลุ่ม ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 2,643 ห้อง

หลังจากประเดิมเปิดตัวแบรนด์ NH ครั้งแรกในไทยและเอเชีย ซึ่งได้แก่ เอ็นเอช โบ๊ท ลากูน ภูเก็ต รีสอร์ท (NH Boat Lagoon Phuket Resort) ไปเมื่อเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้เตรียมเดินหน้าสร้างการเติบโตทั่วภูมิภาคเอเชีย ด้วยการเตรียมเปิดโรงแรม 2 แห่ง ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) ในขณะที่โครงการในประเทศจีนจะเปิดโรงแรมรวม 5 แห่ง แยกเป็นโรงแรมเอ็นเอช (NH) 3 แห่ง และโรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) 2 แห่ง ในส่วนของตะวันออกกลางจะเปิดโรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) รวม 3 แห่ง โดยแยกเป็น 2 แห่ง ในดูไบ และอีก 1 แห่ง ในโดฮา

มร. ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดเผยว่า กลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ แผนเตรียมเปิดตัวโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น เพิ่ม โดยได้ประกาศเปิดตัวโครงการ เอ็นเอช คอลเลคชั่น ระยอง
รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนเซส (
NH Collection Rayong Resort & Residences) จับกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนตะวันออก ซึ่งโครงการนี้จะประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทรวม 117 ห้อง นอกเหนือจากเรสซิเดนซ์อีก 60 ห้อง จังหวัดระยองถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวติดทะเลยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศทางชายฝั่งตะวันออกของอ่าวไทยที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ และยังมีหาดและป่าชายเลนที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิต อาหารท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมถึงความเงียบสงบ โดยเอ็นเอช คอลเลคชั่น ระยอง รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนเซส จะครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์หลายแห่งคอยให้บริการ ตลอดจนสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสภาพแวดล้อมที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี

อีกหนึ่งโรงแรมเอ็นเอชซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ เอ็นเอช คอลเลคชั่น เชียงใหม่ ปิง ริเวอร์ (NH Collection Chiang Mai Ping River) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิงในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ จะเข้ามารองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนภาคเหนือ โดยมีกำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ภาพรวมของรีสอร์ทแห่งใหม่นี้เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ผสานเข้ากับธรรมชาติและภูมิทัศน์โดยรอบริมแม่น้ำ
อันเงียบสงบ นอกจากห้องพักและห้องสวีท 78 ห้อง ที่พักแห่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์ที่รวมร้านอาหาร คาเฟ่ พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะและบาร์ ตลอดจนห้องออกกำลังกาย โดยฝั่งตรงข้ามแม่น้ำยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม หอศิลป์อันทันสมัย ร้านจำหน่ายงานฝีมือ และร้านอาหารมากมาย ซึ่งที่นี่ยังอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เพียง 4 กิโลเมตร

มร. ดิลลิป กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการขยายพอร์ตธุรกิจโรงแรมในไทยแล้ว ในปี 2566 นี้
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้ขยายแผนการเติบโตจากการเปิดตัวโรงแรมแบรนด์เอ็นเอช (NH) และ เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) ทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง โดยในประเทศจีน มีแผนเปิดตัว 2 โรงแรม ได้แก่ เอ็นเอช คอลเลคชั่น และ เอ็นเอช เสิ่นหยาง ยูฮอง (NH Collection และ NH Shenyang Yuhong) ในเมืองเสิ่นหยาง ซึ่งเป็นหนึ่งในมหานครที่สำคัญของจีน โดยมีจำนวนห้องพัก 357 ห้องสำหรับ เอ็นเอช
คอลเลคชั่น (NH Collection) และ 275 ห้องสำหรับ เอ็นเอช (NH) โรงแรมทั้งสองแห่งมีทางเชื่อมเข้าถึงที่ตั้งสำนักงานของบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 500 หลายแห่ง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง สนามบิน และสถานีรถไฟความเร็วสูงได้อย่างง่ายดาย โดดเด่นด้วยผลงานศิลปะยุโรปและการออกแบบภายในที่มีสไตล์ ที่พักแห่งนี้ล้อมรอบด้วยทะเลสาบที่สวยงามและมีพื้นที่กลางแจ้งกว้างขวางสำหรับงานแต่งงานบนสนามหญ้าในฝัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ สนามเทนนิสขนาดใหญ่ ห้องอาหารนานาชาติ 3 แห่ง ห้องบอลรูมแบบไร้เสาขนาด 1,450 ตร.ม. พื้นที่จัดงาน 2,305 ตร.ม. ห้องออกกำลังกายในร่ม และสระว่ายน้ำ

โดยในส่วนของประเทศจีน โรงแรมภายใต้แบรนด์เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) แห่งแรกในประเทศจีน ได้แก่ เอ็นเอช คอลเลคชั่น จางเจียเจีย รีสอร์ท (NH Collection Zhangjiajie Resort) มีกำหนดเปิดตัวในต้นเดือนมีนาคม 2566 ในใจกลางสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในมณฑล
หูหนาน ถัดจากอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย โดยรีสอร์ทแห่งนี้จะล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันงดงาม สถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ 12 แห่ง และมรดกทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยถึง ตัวรีสอร์ทประกอบด้วยห้องพัก 358 ห้อง ห้องประชุม สโมสรสำหรับเด็ก ห้องอ่านหนังสือ สระว่ายน้ำ สนามปิงปอง และห้องอาหาร
ถึง 3 แห่ง

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้ตั้งเป้าเปิดโรงแรม 2 แห่ง ภายใต้แบรนด์เอ็นเอช โฮเทลส์ (NH Hotels) ได้แก่ โรงแรมเอ็นเอช เจิ้งโจว จินชุ่ย (NH Zhengzhou Jinshui) ช่วงต้นปี 2566 ซึ่งจะประกอบด้วยห้องพัก 136 ห้อง ร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอดวัน ห้องออกกำลังกาย และห้องประชุม และในปี 2567 จะเปิดให้บริการโรงแรม เอ็นเอช กุ้ยหยาง ฮัวซี (NH Guiyang Huaxi) ซึ่งจะประกอบ ด้วยห้องพัก 165 จำนวนห้อง ล็อบบี้เลานจ์ ร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอดวัน ห้องประชุม และห้องจัดเลี้ยงแบบบอลรูม โรงแรมทั้งสองแห่งจะยึดมั่นมาตรฐานระดับสูงตามแบรนด์เอ็นเอช ทั้งด้านทำเลที่ตั้ง ราคา และบริการที่เป็นเลิศ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้สำหรับทั้งนักเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ และผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน

ในส่วนของตะวันออกกลาง จะมีโครงการเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ โรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น ดูไบ เดอะ ปาล์ม (NH Collection Dubai The Palm) ที่จะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จะเป็นโรงแรมสูง 14 ชั้น ประกอบด้วยห้องพัก 227 ห้องและห้องสวีท 306 ห้อง ห้องอาหาร 5 ห้อง รวมถึงพื้นที่ผ่อนคลายบนดาดฟ้า สปอร์ตบาร์ สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า สปา
ห้องประชุม 5 ห้อง สโมสรสำหรับเด็ก ห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ครบครัน และบีชคลับส่วนตัว โรงแรมแห่งนี้ยังตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมบนถนนปาล์ม จูไมราห์ (Palm Jumeirah) ถัดจาก Nakheel Mall และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายจุด อาทิ ตึกเบิร์จคาลิฟา(Burj Khalifa) ตึกระฟ้าที่มีชื่อเสียงของนครดูไบ, Ain Dubai (ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก), ดูไบ มารีน่า (Dubai Marina), ดูไบ มอลล์ (Dubai Mall) และพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต (Museum of the Future) ที่เปิดเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้ ช่วนให้การเดินทางไปยังแต่ละสถานที่รวดเร็วสะดวกสบาย

เมื่อไม่นานมานี้ เอ็นเอช คอลเลคชั่น ยังได้เปิดตัวโครงการภายใต้แผนการขยายธุรกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปแล้ว คือ โรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น ลา สวีท โฮเทล ดูไบ (NH Collection La Suite Hotel Dubai) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนน Sheikh Zayed โดยโรงแรมแห่งนี้นำเสนอตัวเลือกห้องพักที่หลากหลายจำนวน 265 ห้อง ทั้งห้องพักแบบปกติ ห้องสวีท และอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่ง สอง และสามห้องนอน ห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ล็อบบี้เลานจ์ สโมสรสำหรับเด็ก พื้นที่จัดประชุม ห้องออกกำลังกาย และพื้นที่นันทนาการ โดยไมเนอร์ โฮเทลส์ จะเริ่มเข้าไปบริหารโรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 และจะทำการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ก่อนที่จะเปิดตัวภายใต้แบรนด์ เอ็นเอชคอลเลคชั่น (NH Collection) อย่างเต็มรูปแบบในช่วงหลังของปีเดียวกัน

อีกหนึ่งโครงการสำหรับปี 2566 ได้แก่ โครงการ โรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น โอเอซิส โดฮา (NH Collection Oasis Doha Hotel) ในประเทศการ์ตาร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2566 นี้ โดยโรงแรมแห่งนี้จะประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีท 299 ห้อง พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอาหรับ สิ่งอำนวยความสะดวกมีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำตกและบาร์ในตัว ห้องออกกำลังกาย สโมสรสำหรับเด็ก สปา สนามเทนนิสแบบพาเดล (ส่วนผสมระหว่างเทนนิสและสควอช) 4 สนาม เลานจ์บนชั้นดาดฟ้า จุดชมวิวเมือง ตลอดจนห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโดฮา สามารถรองรับผู้มาร่วมงานได้ถึง 1,200 คน นอกจากนี้ยังมีบีชคลับและร้านอาหารที่มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2566 อีกด้วย ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่แถบชายฝั่ง กึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองและท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด (Hamad International Airport) สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น ตลาดซูค วากิฟ (Souq Waqif) พิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวมถึงย่าน Westbay และ Doha Corniche ได้อย่างสะดวกสบาย

“ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจแบรนด์โรงแรมภายใต้ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NH Hotel Group) ไปสู่ประเทศใหม่ๆ นอกเหนือทำเลที่ตั้งเดิม ซึ่งการเปิดตัวโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น 5 แห่งในเอเชียและตะวันออกกลาง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยเราจะยังคงแสวงหาโอกาสในการขยายแบรนด์ NH Collection, NH และ nhow ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และมหาสมุทรอินเดียต่อไป ซึ่งผมมั่นใจว่าเราจะมีข่าวที่น่าตื่นเต้นมาประกาศเพิ่มเติมในอนาคตอีกแน่นอน” นายดิลิป กล่าวปิดท้าย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon