BTS กำไร 9 เดือน วูบ31%รับเหมาไม่เข้าเป้า  เดินหน้าทดสอบเดินรถสายสีชมพู-สายสีเหลือง  

537

 

มิติหุ้น-BTS หรือบมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ แจ้งงบ Q3 ของปี 65/66 (ต.ค.-ธ.ค.65) มีกำไรสุทธิ 1.04 พันลบ. ลดลง 0.5% YoY  โดยมีรายได้รวม 6.62 พันลบ. ลดลง 28% YoY มาจากรายได้จากการให้บริการรับเหมาที่ลดลง 3.2 พันลบ. เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง อยู่ในช่วงท้ายของการพัฒนา
งวด 9 เดือน งวดปี 65/66 (เม.ย.-ธ.ค.65) มีกำไรสุทธิ 2 พันลบ. ลดลง 31.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.01 พันลบ. โดยมีรายได้รวมจำนวน 1.78 หมื่นลบ. ลดลง 29.6% หรือ 7.48 พันลบ. จากปีก่อนหน้า มาจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการรับเหมา จำนวน 9.1 พันลบ. สาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง กำไรจากการขายที่ดินที่ลดลงจำนวน 460 ลบ. และไม่มีการบันทึกกำไรจากตราสารทางการเงิน
สำหรับแนวโน้ม Q4 งวดปี 65/66 บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจ MOVE จะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นตามสัญญาของค่าจ้างของรายได้จากการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M)คาดว่ารายได้ O&M ของทั้งงวดปี 65/66 จะเป็นไปตามคาดการณ์รายได้ที่ตั้งไว้จำนวน 6.7 พันลบ.
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน BTSGIF ยังนับเป็นปัจจัยบวกให้กับผลประกอบการของธุรกิจ MOVE ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของจำนวนเที่ยวเดินทาง (ridership) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก ที่เพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 568,000 เที่ยวคนต่อวัน ในเดือนมกราคม 2566 หรือคิดเป็น 75% จากระดับในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด2 ที่มีจำนวนเที่ยวการเดินทางอยู่ประมาณ 756,000 เที่ยวคนต่อวัน

บริษัทกำหนดทดสอบเดินรถสำหรับสายสีเหลือง ไว้ในช่วง Q1/66 และสายสีชมพูในช่วง Q2/66 ดังนั้น การเปิดดำเนินการของรถไฟฟ้าทั้งสองสายจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญสำหรับธุรกิจ MOVE ในงวดปี 66/67 เนื่องจากบริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้ค่าโดยสารจากทั้งสองสายผ่าน NBM3 และ EBM4 จากสัญญา สัมปทาน 30 ปี กำหนดให้ NBM และ EBM มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเมื่อสัมปทานของทั้งสองสายเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะสภาพคล่องของบริษัท

สำหรับธุรกิจ MATCH แรบบิท โฮลดิ้งส์ (เดิมชื่อ ยู ซิตี้) ได้ดำเนินการขายสินทรัพย์ด้านอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 4 พันลบ.ในปี 65 และจะดำเนินการขายต่อไปจนสำเร็จตามแผนที่ตั้งไว้ในปี 68 คิดเป็นมูลค่าอีกราว 3 หมื่นลบ. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงแผนธุรกิจสู่ธุรกิจบริการทางการเงิน โดยแรบบิท โฮลดิ้งส์ สามารถนำเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ด้านอสังหาริมทรัพย์บางส่วนไปลงทุนเพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยเติบโตอย่างมั่นคงที่ 39% ด้วยจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรวม 2.5-2.8 พันล้านบาท ในปี 66

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

Tiktok : www.tiktok.com/