มิติหุ้น-จากบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)ระบุว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลาง ต่อหุ้น TPIPP หรือ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ โดยประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2561 เติบโตโดดเด่นและจะทำระดับสูงสุดใหม่ จากการเริ่มจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้า TG4-6 ขนาด 90 MW เมื่อต้นเดือน เม.ย. ขณะที่ โรงไฟฟ้า TG7 (Coal/RDF 70 MW) คาดว่าจะ COD ในเดือนนี้ และ TG8 (Coal 150 MW) จะ COD ในไตรมาส 3/2561
ซึ่งสะท้อนว่า TPIPP มีความพร้อมในการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะ Quick Win (300 MW) ซึ่งคาดมีความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 นอกจากนี้ในวันที่ 13 มิถุนายน บริษัทมีการจ่ายเงินปันผล 0.10 บาท/หุ้น (XD 13 มิ.ย.) จึงประเมินอัตราการจ่ายปันผล(Div. Yield) ปีนี้ ราว 4.4% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 7.50บาท /หุ้น
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ระบุว่า TPIPP มีโรงไฟฟ้าใหม่ TG4+TG6 และขายไฟให้ EGAT และได้ค่า adder 3.5 บาท เริ่ม COD เมื่อ 5 เม.ย. เดินเครื่องได้ดี ใช้กำลังการผลิต 80-90% คาดจะหนุนกำไรไตรมาสโตก้าวกระโดดมากกว่า 1 พันล้านบาท ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหิน 70MW คาดจะ COD ในกลางเดือนนี้ ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 MW คาดจะ COD ในไตรมาส3/2561 ทำให้กำไรไตรมาส3 จะดีขึ้นอีก นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยยังประเมินอีกว่า TPIPP นั้นมีศักยภาพที่จะประมูลโรงไฟฟ้าขยะของกระทรวงมหาดไทย เช่น หนองแขม และ อ่อนนุช โรงละ 20 MW จึงถือเป้นหุ้นที่มี Yield 5.9 % พร้อมแนะนำ “ซื้อ”ที่ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 8.50 บาท/หุ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPIPP ตลอดทั้งวันอยู่ในแดนลบ และบวกสลับกัน ขณะที่ราคาหุ้น TPIPP ช่วงบ่ายล่าสุดอยู่ที่ 6.75 บาท/หุ้น ไม่มีการเปลี่ยนจากวันก่อนหน้า
www.mitihoon.com
