ผ่านโค้งแรกมาแล้วกับการเลือกตั้งไทยในวันที่ 14 พ.ค. 66 ถือว่าเป็นกระแสที่ร้อนแรงมาก โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเฉลี่ย 75.22% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ และผลลัพธ์ คือ พรรคก้าวไกล พลิกล็อกชนะ พรรคเพื่อไทย โดยคว้าเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สูงสุด 151 เก้าอี้ ขึ้นเป็นอันดับ 1 แต่ทั้งนี้เองในด้านตลาดหุ้นไทยกลับไม่ได้ตอบสนองเชิงบวกเท่าที่ควร
ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากนโยบายทางการเมือง
ทางด้าน บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยหลังทราบผลการเลือกตั้งไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นบวก อย่างที่คาดไว้ เนื่องจากยังต้องติดตามการรวมรวบคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ในการหาเสียงเพิ่มสำหรับโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในการประชุมร่วมรัฐสภาที่ต้องได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีความกังวลกับนโยบายบางอย่างของพรรคก้าวไกล ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มพลังงาน ภาคธุรกิจ และตลาดทุน เช่น การปรับลดราคาพลังงานและการทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ การขึ้นค่าแรงงานทุกปี และการเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain Tax) เป็นต้น นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังถือว่าเป็น “มือใหม่” สำหรับการทำงานในฐานะรัฐบาล ทำให้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ปัจจัยการเมืองคาดว่ายังคงอึมครึมต่อไปในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ทำให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะ “Sideways to Sideways Down” ในกรอบ 1500-1570 จุด ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำหาจังหวะเลือกซื้อหุ้น 4 ธีมเด่น ในระยะสั้น ได้แก่
- หุ้นที่งบออกมาดี ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้น
แนะ AAV, AH, BA, PRM, SAPPE, SICT, TKN
- หุ้นเข้า MSCI Index / หุ้นคาดเข้า SET50 Index
แนะ MAKRO / TLI, WHA
- หุ้นพื้นฐานดีที่ราคาลงเกินเหตุหลังเลือกตั้ง
แนะ ADVANC, BGRIM, CPALL
- คาดประชุม กนง. 31 พ.ค. 66 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แบงก์ขนาดใหญ่ได้ประโยชน์
แนะ BBL, KBANK, KTB, SCB
ประเมินไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาล
เดือน ก.ค. 66
-กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. สัดส่วนไม่น้อยกว่า 95% ภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง (ภายใน 13 ก.ค. นี้)
-รัฐพิธีเปิดประชุมสภานัดแรก ภายใน 15 วันหลังการรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา
เดือน ส.ค. 66
-เปิดประชุมสภาร่วมกัน เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี (ได้คะแนนสนับสนุนจาก ส.ส. และ ส.ว. รวม 376 เสียงขึ้นไป)
-นายกรัฐมนตรีรอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินหน้าจัดตั้งคณะรัฐมนตรี
-ตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ รอโปรดเกล้าฯ
เดือน ก.ย. 66
-หลังโปรดเกล้าฯ และถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว รัฐบาลต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน
หาจุดร่วมระหว่างนโยบายกับบริษัทที่ได้ประโยชน์
ทางด้านนายกวี ชูกิจเกษม ผู้บริหาร บล.พาย เผยว่า ตลาดหุ้นไทยชอบความชัดเจน ในการตัดสินใจว่าจะไปทิศทางไหน หากตลาดยังไม่มีความชัดเจนนักลงทุนก็ยังมีโอกาสขายหุ้นออกมาทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ทำให้ตลาดยังมีความผันผวน
ชี้กลยุทธ์การลงทุน หาจุดร่วมระหว่างนโยบายของแต่ละพรรคกับบริษัทที่ได้ประโยชน์ อาทิ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค แต่ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง อย่างธุรกิจบริการในกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม โรงพยาบาล ธนาคาร เช่น AOT, MINT, BDMS, BBL, TISCO ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้จ่ายค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว และได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon