BTS อ่วม! ส่อรับรู้ขาดทุน กลุ่มJMART-STARK

5900

อาณาจักร BTS หรือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าหุ้นถูกกดดันอย่างหนักจนล่าสุด (19 พ.ค.66)มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap. หลุดแสนล้านบาทแล้วอยู่ที่ 96,123.76 ลบ. มันเกิดอะไรขึ้น? ประกอบกับผลการดำเนินงานงวดล่าสุด ไตรมาส4/66 และงบปี 66 (สิ้นสุด มี.ค.66) ใกล้จะประกาศออกมาแล้ว และเป็นที่ทราบกันดีว่า BTS ได้เข้าลงทุนในหุ้นที่มีปัญหาด้านงบการเงินอย่าง STARK จำนวน 100 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนราว 3 บ.

 

 

“BTSเสียงรับรู้ขาดทุน

จากหุ้นSTARKสูงถึง300ลบ.”

 

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่าในกรณีปกติ (Base Case) ถ้าใช้ราคาปิดก่อนโดน SP ที่ราคาหุ้น 2.38 บาท BTS จะมีขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้ (Unrealize Loss) ที่ -62 ลบ.แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุด คือ STARK ไม่มีมูลค่า BTS จะมีขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้สูงมากถึง 300 ลบ. แต่สิ่งที่ยังไม่แน่นอนคือ BTS จะตั้งสำรองเงินลงทุนใน STARK เมื่อใด

 

 

“กลุ่มJMARTขาดทุน

   สะเทือนถึงBTS

 

ไม่เพียงเท่านี้ BTS ยังได้รับผลกระทบทางอ้อมจากกลุ่ม JMART ที่ขาดทุนหนัก(งบQ1/66) ผ่านบ.ในเครืออย่าง VGI และ RABBIT  ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ยังได้นำเสนอข้อมูลว่า จากผลงานงวด 1/66  SINGER ขาดทุน -843 ลบ., JMART ขาดทุน-295 ลบ. (ถือหุ้นใน SINGER 24.99%) และ RABBIT ขาดทุนมากขึ้นเป็น -357 ลบ. (ถือหุ้นใน SINGER 17.83%)

 

“VGI เสียงรับผลขาดทุน

จากการถือหุ้นJMART”

 

ดังนั้นการที่ VGI ถือหุ้นใน JMART 13.66% และBTS ถือหุ้นใน VGI และ RABBIT ในสัดส่วน 52.6% และ 35.0% ตามลำดับ ก็จะได้รับส่วนขาดทุนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยพบว่าVGI ได้รับผลกระทบมากจากการถือหุ้นใน JMART หากสมมุติให้ VGI รับผลขาดทุนจาก JMART เข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 13.66% จะเป็น -40 ลบ. และหากเทียบกับ y-o-y เป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง -85 ลบ. และเมื่อนำผลขาดทุนมาเทียบกับประมาณการกำไรหลักใน Q4/65-66F และ FY65-66F ที่ -77 ลบ. และ -456 ลบ. จะคิดเป็นสัดส่วนถึง 52% และ 8.8% ตามลำดับ ถือว่ามีผลกระทบที่ค่อนข้างมาก จึงอาจยังต้องระมัดระวังในช่วงการประกาศงบการเงินปลาย พ.ค.66 ที่จะกระทบต่อราคาหุ้น VGI ได้

 

“BTSรับผลกระทบทางอ้อม

จากถือหุ้นผ่านVGI- RABBIT”

ขณะที่ BTS จะได้รับผลกระทบพอควรจากการถือหุ้นใน VGI และ RABBIT หากสมมุติให้BTS รับผลขาดทุนจาก VGI เข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 52.6% จะเป็น -21 ลบ.และรับผลขาดทุนจาก RABBIT เข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 35.0% จะเป็น -125 ลบ. รวมเป็นผลขาดทุนทั้งหมดที่คาดไว้คือ -146 ลบ. เทียบกับประมาณการกำไรหลักในQ4/65-66F และFY65-66F ที่ 1,182 ลบ. และ3,082 ลบ. จะคิดเป็นสัดส่วน -12.4% และ-4.7% ตามลำดับ ถือว่ามีผลกระทบที่พอควรจึงอาจยังต้องระมัดระวังในช่วงการประกาศงบการเงินปลาย พ.ค.66 ที่จะกระทบต่อราคาหุ้น BTS ได้

 

แม้ภาพระยะยาว นักวิเคราะห์ยัง มองว่า BTS มี Upside จำนวนมากจากขยายการลงทุนอาทิ สนามบินอู่ตะเภา (ถือหุ้น35%) โครงการมอเตอร์เวย์ (ถือหุ้น40%) และการลงทุนล่าสุดในธนูลักษณ์(TNL)(ถือหุ้น 41%) ก็ตามแต่ภาพระยะสั้นนี้นักลงทุนก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon