TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

173

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในปีนี้ และสต็อกน้ำมันดิบปรับเพิ่มสวนทางกับที่คาดการณ์

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

ราคาน้ำมันดิบปรับลด แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 66 ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐฯ ที่รวมระยะเวลานานกว่า 15 เดือน (ปรับขึ้นดอกเบี้ย 10 ครั้ง ตั้งแต่เดือน มี.ค. 65) แต่เฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มิ.ย. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 467.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลด 0.5 ล้านบาร์เรล

+ รายงานสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 66 จะปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 102.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของกลุ่มโอเปก ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.35 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มน้อยว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคูเวตมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินในอินเดียปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5 ล้านตัน สู่ระดับ 3.3 ล้านตัน ในเดือน พ.ค. 66

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการผลิตน้ำมันดีเซลของมาเลเซียลดลง อย่างไรก็ตาม การส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนใน 5 เดือนแรกของปี 66 ปรับเพิ่มขึ้น 45.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สู่ระดับ 26.8 ล้านตัน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon