การพลิกบทบาทจากนักธุรกิจหมื่นล้าน สู่แวดวงการเมือง “นายเศรษฐา ทวีสิน” ตัวเต็งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในงานเสวนา “แผนผ่าวิกฤติ พิชิตสงคราม” ทางสำนักข่าว “มิติหุ้น” จึงได้เดินทางไปร่วมงานเพื่อพูดคุยถึงประเด็นร้อนแรงสำหรับการโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงแนวทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยมีคำถามและคำตอบดังนี้
Past 1 : ลุ้น! จัดตั้งรัฐบาลจบต้นเดือนส.ค.
ถาม : กรณีขั้วรัฐบาลปัจจุบันออกมาแสดงความคิดเห็นว่าหากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรกแล้วไม่ผ่าน ในการโหวตครั้งถัดไปควรให้โอกาสพรรคการเมืองอันดับ 2 เสนอชื่อ ไม่ควรเสนอชื่อเดิมซ้ำ เพราะไม่ใช่การเลือกหัวหน้าห้อง
ตอบ : เลือกหัวหน้าห้องตั้งแต่เด็กๆ จำไม่ได้ว่าเลือกกันยังไง แต่เชื่อว่าการโหวตเลือกนายกฯ ต้องดูที่ตัวเลขหรือจำนวนเสียง หากเยอะก็ควรให้โอกาสเขาในการโหวตครั้งที่ 2
ถาม : กรณีที่ ส.ว. ส่วนใหญ่บอกว่าจะไม่สนับสนุน จนมีกระแสข่าวว่ามีการซื้อเสียงเพื่อแลกโหวตให้นายพิธา
ตอบ : เรื่องการซื้อเสียงเราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ควรใช้เหตุผลในการคุยกันมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องของประเทศชาติ ประชาชนได้พูดแล้วว่าอยากได้ฝ่ายไหนมาจัดตั้งรัฐบาล
ถาม : ประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นข้ออ้างของ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ตอบ : ส.ว.หลายคนก็ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่เชื่อว่าไม่เกิน 10 ท่าน จาก 250 ท่าน ซึ่งอาจมีพลังเงียบที่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จึงหวังว่าจะให้ความร่วมกันและผ่านไปได้ด้วยดี
ถาม : การที่ ส.ว. ส่วนหนึ่งมองว่าแม้แต่ในร่าง MOU ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่มีเรื่องการแก้ไขมาตรา112 และเหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ลดเพดานเรื่องนี้ลง เพื่อผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
ตอบ : เรื่องนี้ต้องไปถามพรรคก้าวไกล เพราะเป็นคนเขียนเรื่องนี้มา เราเป็นพรรคอันดับ 2
ถาม : การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปด้วยหรือไม่
ตอบ : เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ตัวเองชี้นำมานานแล้ว นักการเมืองอย่างเราลืมไปว่ามาทำกิจกรรมการเมืองเพื่ออะไร เรามาทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน 2 เดือนที่มีการเลือกตั้งไป ผลออกมาชัดเจนและ กกต. ก็รับรองแล้ว แต่ยังไม่มีนายกรัฐมนตรี มันก็ลำบาก จะบริหารจัดการประเทศอย่างไร ถ้ามีการเลือกนายกได้เร็ว ฟอร์มรัฐบาลได้ภายในต้นเดือนสิงหาคม งบประมาณของปี 2567 จะสามารถใช้ได้กลางเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เรายังคงทำงานอยู่ตลอด หากมีการจัดตั้งรัฐบาลรวดเร็ว เราก็จะทำงานได้เร็วขึ้น
ถาม : จากกระแสข่าวอาจมีการโหวตเลือกนายกถึง 3 ครั้ง ถือว่ามากไปไหม และหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
ตอบ : ผมไม่เข้าใจในกฏกติกา หากมองในฐานะบุคคลทั่วไป ผลคะแนนโหวตมีความคืบหน้า ก็ควรให้โอกาสเขา ผมมองแค่นี้ในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่มองในฐานะพรรคเพื่อไทย
ถาม : หากการเลือกโหวตนายกรอบที่ 1 และ 2 ยังไม่ได้ข้อสรุป จะเปลี่ยนขั้วอำนาจไหม
ตอบ : เราต้องดูคะแนนด้วย ถ้ารอบ 1 ได้คะแนน 320 รอบ 2 ได้คะแนน 340 ซึ่งผมว่าน่าโหวตต่อนะ เราต้องให้โอกาสเขาเพราะพรรคก้าวไกลได้คะแนนสูงสุด
ถาม : ทราบหรือไม่ว่ามีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนนี้
ตอบ : ไม่ทราบข่าว แต่หากกลับมาก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่กระทบเรื่องของพรรค ซึ่งก็ต้องเข้ากระบวนการทางกฎหมาย และย้ำว่าการกลับมาของนายทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค และการจัดตั้งรัฐบาล การบริหารจัดการประเทศ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกัน
Past 2 : การเมืองชัดเจน หนุนต่างชาติกลับมาลงทุนในไทย
ถาม : มองภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมเป็นอย่างไร โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลที่มีผลต่อภาคการลงทุน
ตอบ : แน่นอนว่าตอนนี้เราอยู่ปากเหว ตัวเลขการส่งออกติดลบ หนี้ครัวเรือนอยู่ร้อยละ 90 การลงทุนจากต่างประเทศก็ชะงักเพราะไม่มั่นใจในทิศทางของรัฐบาล อีกทั้งในอีก 3 เดือนจะเข้าสู่ช่วง Hight Season ของประเทศไทยแล้ว ยังมีปัญหาต่างๆที่ควรรีบดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีซ่า โลจิสติกส์ การบริหารจัดการต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องเข้าไปดูแลอย่างเร่งด่วน พร้อมมองว่าต้นปีหน้าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น
ถาม : เราอยู่ในยุคที่ถ้าก้าวไม่ทันเราถอยหลังทันที ในแง่นักลงทุน เราจะจัดการอย่างไรในสถานการณ์ที่ไม่มีเสถียรภาพนี้
ตอบ : ผมมองว่าเราอยู่ในช่วง Wait and See ต้องรักษากระแสเงินสดให้ดี เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ถาม : นอกเหนือจากปัจจัยทางการเมือง เรามองเห็นปัจจัยอะไรอีกที่จะดึงโอกาสกลับเข้ามา
ตอบ : เป็นคำถามที่ยากมาก เนื่องจากตอนนี้สำคัญที่สุดคือรัฐบาลใหม่ ซึ่งอุตสาหกรรมใหญ่ๆต้องพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา และหนี้ครัวเรือน การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่มีคุณธรรมก็เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม่หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ก็ยังมีพี่น้องประชาชนจำนวนไม่น้อยที่กู้นอกระบบ
ถาม : ในสายตาเวทีโลก เขาจะกลับมาชื่นชมประเทศไทยที่ดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนหลายทศวรรษที่ผ่านมา คุณเศรษฐาให้น้ำหนักตรงนี้อย่างไร
ตอบ : ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน หลายๆเรื่องที่เราอาจจะไม่ได้มอง เช่นโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลดีๆที่เรามีอยู่ เพราะฉะนั้นเวลานักลงทุนจะเข้ามาลงทุนเขาก็ต้องดูตรงนี้ด้วย เรื่องinfrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) และ Skill Labor (ทักษะแรงงาน) ที่เรามีมากกว่า ผมจึงเชื่อว่าเราเป็นต่อกว่า 2-3 ประเทศ ถามว่ารอการจัดตั้งรัฐบาล 2-3 เดือนจะแย่ไหม ผมว่าไม่ เพราะประเทศอื่นเรื่องค่าเช่าเป็นเรื่องลำบาก เช่นประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการกระแสเงินสดจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ถาม : เมื่อการเมืองไม่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่น ส่งผลให้หุ้นตกลงมา ไม่ทราบว่ามีมุมมองอย่างไร
ตอบ : ตลาดทุนก็เป็นตัวชี้นำอย่างหนึ่ง ที่บ่งบอก Sentiment การลงทุนของนักลงทุน การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้างบประมาณปี 2567 ไม่ได้จัดสรรลงไป จึงมองว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะซึมลงไปอีกสักพัก และอยากวิงวอนว่า หากเลือกตั้งเสร็จแล้ว การแข่งขันจบแล้ว ประชาชนพูดแล้วว่าอยากได้ใครเป็นรัฐบาล เราก็อยากให้การโหวตนายกวันที่ 13 ก.ค. เป็นไปได้ด้วยดี พรรคเพื่อไทยไม่แตกแถว พร้อมสนับสนุนพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon