แม้จะไม่ได้ใจความหลัก สำหรับการหารือกันครั้งประวัติศาสตร์ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่อย่างน้อย ก็ยังทำให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลงไปได้บ้าง
โดยเอกสารที่ 2 ผู้นำร่วมลงนามนั้น ทรัมป์ประกาศว่า จะนำไปสู่กลไกรักษาสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการค้าโลกอย่างแน่นอน เพราะช่วยลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นจุดเปราะบางด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกมาตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งลงไปได้ระดับหนึ่ง
การที่สองประเทศมีข้อตกลงระหว่างกัน จะทำให้การค้าโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลอดจนตลาดเงิน ตลาดทุน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งส่งผลดีต่อการส่งออกขอไทยในระยะยาว
และเช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) ตามเวลาในเมืองไทย จะทราบมติที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ว่าขึ้นหรือไม่ขึ้น “ดอกเบี้ย” ถ้าขึ้น ดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับมาอยู่ที่ 2.0% ต่อปี แต่ถ้าไม่ขึ้น จะอยู่อัตราเดิม 1.75% ต่อปี และธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB กำหนดประชุมเช่นกัน ตลาดคาดกันว่า น่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการ QE ลง รวมทั้งการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ล้วนแต่เป็นที่จับตาของนักลงทุน
บล.เออีซี ระบุทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงสัปดาห์นี้ (13-15 มิ.ย.) ให้กรอบดัชนี1,690-1,746 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลกับปัจจัยต่างประเทศ เช่น การประชุม G-7 เมื่อวันที่ 8-9 มิ.ย. ที่ขาดข้อสรุปที่ชัดเจน และมีโอกาสที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และคู่ค้าหลักอย่างกลุ่ม EU จะรุนแรงมากขึ้น
ส่วนการประชุมเฟด ตลาดจะมั่นใจว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% แต่นักลงทุนยังรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อมุมมองด้านเศรษฐกิจ และทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี และตลาดจับตาช่วงเวลาที่ ECB จะเริ่มปรับลดวงเงินโครงการซื้อคืนสินทรัพย์อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เดือนละ 3 หมื่นล้านยูโร
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน บล.เออีซี แนะนำ “Selective Buy เน้นรับ ไม่ไล่ราคา” ในหุ้นค้าปลีกที่ยังโตดีและคาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก แนะเลือก CPALL, BJC, ROBINS รวมทั้งหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่มีแผนเปิดตัวโครงการจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังปี 2561 เช่น AP, SPALI, SC และหุ้นเด่นที่คัดไว้เป็นหุ้น Top Picks ช่วงครึ่งหลังปี 2561 BDMS, BJC, AOT, BA, JKN, SAWAD, SPALI
“บิ๊กเซ็ต”
www.mitihoon.com