มิติหุ้น – คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจของเซ็น กรุ๊ป ในไตรมาสนี้ มีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีขึ้นจากรายได้ที่ฟื้นตัวตามสถานการณ์ภายในประเทศ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง และมีการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค”
โดยในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก มี 3 ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลต่อการเติบโตของ เซ็น กรุ๊ป คือ
- ธุรกิจร้านอาหารของสาขาเดิม (SSSG) : โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจอาหารที่เติบโตขึ้น 136 ล้านบาท หรือ 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้เพิ่มขึ้น 341 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากสถานการณ์จากสถานการณ์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ อาทิ แบรนด์ อากะ ที่มีการ Revamps ภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น, การออกแคมเปญเซ็น แซ่บ การตลาดแบรนด์ เซ็น ที่ฉีกมิติใหม่ของอาหารญี่ปุ่น เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้น และการ Repositioning แบรนด์ลาวญวน พร้อมวางจุดยืนและออกแบบกลยุทธ์แบรนด์ใหม่ เตรียมพร้อมลุยขยายแฟรนไชส์ทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีปรับกลยุทธ์การขายอาหารของร้านในเครือและออกโปรโมชั่นให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้จำนวนลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากช่องทางนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง : ปีนี้เน้นการขยายไปใน Strategic Location วางกลยุทธ์การเลือกทำเลเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น พัทยา หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) รวมถึงการขยายสาขาแฟรนไชส์ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ทางด้านแบรนด์เรือธงอย่างแบรนด์ อากะ ในครึ่งปีแรกมีการเปิดไปแล้ว 4 สาขา และตั้งเป้าครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่มอีกกว่า 10 สาขา ภายในสิ้นปี
ตามมาด้วยแบรนด์ เซ็น ที่เตรียมเปิดอีกกว่า 6 สาขา ภายในสิ้นปี และแบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล ปักหมุดขยายอีก 5 สาขา ภายในสิ้นปีด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นสาขาที่ทางบริษัทฯ ลงทุนเอง
ส่วนสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศ โดดเด่นด้วยแบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล ที่พึ่งเปิดตัวที่กัมพูชาไปเมื่อไม่นานมานี้ อีกทั้งยังมีแผนที่จะเปิดแบรนด์ เขียง ที่ประเทศมาเลเซียด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะมีการเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน
ทั้งนี้ในไตรมาส 2 ปี 66 มีการเปิดสาขาใหม่รวมกว่า 10 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 5 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 4 สาขา และแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมในครึ่งปีแรก ปี 66 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 15 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 7 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 7 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา สรุปสิ้นไตรมาส 2 ปี 66 มีร้านอาหารรวมทั้งสิ้น 327 สาขา
- การควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี : กลุ่มบริษัทฯ มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดี การควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับลดค่าใช้จ่ายพนักงาน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมในไตรมาส 2 ปี 66 ลดลงถึง 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ส่วนธุรกิจค้าปลีก โดยบริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งมีโรงงานในการผลิตทั้งน้ำปลาร้า และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ที่ทันสมัย มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และได้รับมาตรฐานสากล ล่าสุดได้มีการติดตั้งเครื่องบรรจุใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตที่ครบวงจร ทั้งยังปรับปรุงพื้นที่โรงงานและส่วนสำนักงานเพื่อรองรับการเติบโต อีกทั้งยังมีการรับจ้างผลิตสินค้าออกสู่ตลาดของลูกค้ารายอื่นอีกด้วยเช่นกัน
ส่วนธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร โดยบริษัท คิง มารีน ฟู้ดส์ จำกัด ได้ทำการขยายห้องเย็นและคลังสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และการกลับมาของธุรกิจอาหาร โรงแรม และสายการบินด้วย
“อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการรักษาอัตราการเติบโตของสาขาเดิม และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้สมดุลกัน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแรงของธุรกิจที่จะส่งผลต่อการเติบโตของ เซ็น กรุ๊ป ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน” คุณยุพาพรรณ กล่างทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon