มิติหุ้น – ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดรัฐสภาอาจตัดสินใจรับมอบงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ มูลค่า 1.15 หมื่นล้านบาท หลังการก่อสร้างโครงการล่าช้ามานาน 2.7 ปี ดังนั้น STEC อาจถูกปรับ กรณีส่งมอบงานก่อสร้างล่าช้า จึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” จาก “ซื้อ” พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 10.2 บาท จาก 15 บาท
ฝ่ายวิจัย ซีจีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า คณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นัดประชุมวันที่ 18 ก.ย. 66 เพื่อพิจารณาเรื่องรับมอบงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังผ่านกำหนดส่งมอบมามากกว่า 2 ปี นับจากที่มีการขยายเวลาเป็นครั้งที่ 4 ตามสัญญาระบุไว้ว่าผู้รับเหมาต้องจ่ายค่าปรับ 0.01% ของราคางานจ้างหรือ 12.28 ล้านบาทต่อวัน กรณีส่งมอบงานล่าช้า หมายความว่า STEC อาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1.23 หมื่นล้านบาท
ค่าปรับดังกล่าว คิดเป็นราวสองในสามของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นไตรมาส 2/66 จะส่งผลกระทบต่อการเงินรุนแรง แต่ STEC ตั้งสำรองโครงการนี้แล้ว 3 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เชื่อ STEC อาจไม่ต้องจ่ายค่าปรับเต็ม 1.23 หมื่นล้านบาท ประเมินว่ามีโอกาสจ่ายค่าปรับ 1.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 25% ของค่าปรับทั้งหมด
ฝ่ายวิจัยฯคาดว่า ปีนี้ STEC จะมีกำไรก่อนหักภาษี 897 ล้านบาท กรณีค่าปรับนี้ทำให้ STEC จะมีขาดทุน 333 ล้านบาท นอกจากนี้ STEC ยังมีคดีที่ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 152 ล้านบาทในสิ้นปี 65 อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่ง STEC ยังไม่มีการตั้งสำรองในส่วนนี้
ฝ่ายวิจัยซีจีเอสฯ ปรับลดคำแนะนำหุ้น STEC เป็น“ขาย” จาก “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายลงมาที่ 10.20 บาท จาก 15 บาทท สะท้อนความกังวลเรื่องค่าปรับดังกล่าว อย่างไรก็ตามอาจมี upside risk หากบริษัทไม่ต้องจ่ายค่าปรับและราคาวัสดุก่อสร้างลดลง ส่วนปัจจัยลบคือความไม่แน่นอนทางการเมือง, บริษัทอาจไม่สามารถคว้าโครงการขนาด ใหญ่ และการตั้งสำรองสำหรับคดีอื่น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon