CPF ดำเนินธุรกิจโดดเด่นด้าน ESG ติดทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 7

134

มิติหุ้น – นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2566 ด้วยการคัดเลือกจาก 888 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และบริษัทได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 7 (พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2561-66)

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า  บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทต้นแบบ ที่มุ่งมั่นทำธุรกรรมต่างๆและดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม  เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมา หนึ่งในพันธกิจที่สำคัญ คือ  การประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero)  ซีพีเอฟเป็น 1 ใน 7 บริษัททั่วโลกที่เข้าโครงการนำร่อง และเป็นบริษัทผลิตอาหารบริษัทแรกที่ได้รับอนุมัติทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว สอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture Guidance (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร จากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi)  ซึ่งพันธกิจดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อม  ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟและคู่ค้า

นอกจากนี้  ซีพีเอฟ  ประกาศภารกิจเตรียมส่งไก่ไทยไปอวกาศ ในโครงการ ‘Thai food – Mission to Space’ เป็นการยกระดับความปลอดภัยทางอาหารมาตรฐานสูงสุด  ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไก่ไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศรับประทาน ตามหลักเกณฑ์ขององค์การ NASA และ โครงการดูแล Supply Chain และ SMEs ตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงปัจจุบัน ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ  Faster Payment ปรับลดเครดิตเทอม  โครงการ CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง….เคียงข้างคู่ค้า  โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ช่วยคู่ค้าธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs มีโอกาสเติบโตและก้าวสู่ระดับสากลได้อย่างเข้มแข็ง  โครงการ  Partner to Grow … เติบโต เคียงข้าง อย่างยั่งยืน โครงการ “เอส เอ็ม อี เอ็กซ์ ต้นทุนต่ำ นำรักษ์โลก” พัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การบริหารต้นทุนและพลังงาน ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net-Zero เป็นต้น

ESG เป็นสิ่งที่ทุกๆ บริษัทในโลก ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ซีพีเอฟตั้งใจที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ ให้เป็นหนึ่งในบริษัทต้นแบบของการทำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการด้าน ESG  ดำเนินธุรกิจโดยดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน ซึ่งเป็นแนวนโยบายตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ของท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ในการทำธุรกิจ ต้องดูแลประเทศ ประชาชน แล้วบริษัทจึงจะได้รับประโยชน์ตามมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องตามมาคือ การเรียนรู้และติดตามเทรนด์ใหม่  เพื่อให้เป็นผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดีให้ได้” นายประสิทธิ์ กล่าว

นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานสถาบันไทยพัฒน์  กล่าวว่า การที่เข้ามาอยู่ในทำเนียบของ ESG 100 มีความยากลำบากที่จะต้องขับเคลื่อนองค์กรให้เข้ามาอยู่ใน 100 อันดับ จากทั้งหมด  888 หลักทรัพย์จดทะเบียนในปีนี้ ส่วนปีหน้าคิดว่าแนวโน้มที่สำคัญ คือ การผลักดันเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งซีพีเอฟดำเนินการได้โดดเด่นในขอบเขตที่ 1 และ ขอบเขตที่ 2 ส่วนในขอบเขตที่ 3 ซึ่งมีความท้าทาย เพราะมีความเกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนนั้น เชื่อว่าซีพีเอฟในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรจะสามารถบริหารจัดการได้

ชื่นชมซีพีเอฟที่ให้ความสำคัญกับ SMEs  โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา ได้ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ SMEs ทั้งโครงการปรับลดเครดิตเทอม การดูแล SMEs เรื่องภาระหนี้สิน ช่วยคู่ค้าธุรกิจให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ  ซีพีเอฟเป็นบริษัทที่มีการดำเนินการโดดเด่นในเรื่องนี้ เพราะความสำเร็จไม่ได้ขึ้นกับองค์กรเราโดยลำพัง เราต้องพาคู่ค้าเราไปด้วย ต้องให้ความสำคัญกับคู่ค้า ดูแลอย่างเป็นธรรม จึงจะเป็นความยั่งยืน  สิ่งเหล่านี้เป็นผลสะท้อนให้ซีพีเอฟเข้าไปอยู่ในทำเนียบ ESG100 ในปีนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่เก้าในปีนี้

ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon